นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลผลการดำเนินงานย้อนหลัง ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 30 พ.ย. 2558 ของกองทุนประเภทหุ้นขนาดกลางและเล็ก (Equity Small/Mid Cap) โดยบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด* พบว่ากองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ (TISCOMS) และ กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMSRMF) มีผลการดำเนินงานเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยมีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD)อยู่ที่ประมาณ 15% และ 13% ตามลำดับ สวนทางกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงถึง 9% ผลงานดังกล่าวจึงพิสูจน์ความสำเร็จและความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนของทิสโก้ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
"เราออกกองทุน TISCOMS มาตั้งแต่กลางปี 2556 โดยเน้นคัดหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีศักยภาพ และอยู่ในช่วงการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งในอดีตผลการดำเนินงานของหุ้นขนาดกลางและเล็กมักจะมีอัตราการเติบโตได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งผ่านไป 2 ปีเศษ กองทุนTISCOMS ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 40% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดกลางและเล็กในตลาดทั้งหมด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index ผลตอบแทนติดลบร่วม 6% กองทุนนี้จึง outperform SET Index อย่างมาก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกองทุน ที่เราเน้นการลงทุนแบบเชิงรุก (Active) โดยการเลือกลงทุนในหุ้น อ้างอิงกับปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละบริษัทในลักษณะ Bottom Up เป็นหลัก เพื่อมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าตลาดโดยรวม"
นายสาห์รัชกล่าวต่อไปว่า ตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปจนถึงปีหน้าอาจจะมีความยากในการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มหลักอย่างกลุ่มพลังงาน สื่อสาร ธนาคาร แต่ก็ยังมีโอกาสทำกำไรจากหุ้นไทย เพราะหุ้นหลายตัวยังสามารถเติบโตได้ดี มีความน่าสนใจและมีศักยภาพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มเฮลธ์แคร์ กลุ่มท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยผลักดันตลาดหุ้นไทยในปีหน้า
"กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นไทยที่ทิสโก้แนะนำ คือลงทุนแบบ Selective เน้นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโต เช่นหุ้นกลุ่มขนาดกลางและเล็ก ซึ่งทิสโก้มีกองหุ้นMid/Small Cap ทั้งกองทุนเปิดคือ TISCOMS และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คือ TMSRMF จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดโอกาสเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี โดยกองทุน TMSRMF สามารถใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีหากปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ พร้อมเพิ่มโอกาสเกษียณอย่างมั่งคั่งอีกด้วย" นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ (TISCOMS) และกองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMSRMF) มีนโยบายลงทุนในบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็กในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท โดยทั้งสองกองทุนมีระดับความเสี่ยงของกองทุน: 6 ความเสี่ยงสูง และมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,000 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ ซื้อขายได้ทุกวันทำการ มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและคู่มือภาษีก่อนตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
*ที่มา: Morningstar ข้อมูลการจัดอันดับด้านผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 1 ม.ค. – 30 พ.ย. 58 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.morningstarthailand.com