สพฉ.เร่งพัฒนาการแจ้งเหตุสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินสำหรับผู้บกพร่องทางร่างกายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้บกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน และการพูด เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้การติดต่อสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์ปกติไม่สะดวก

ศุกร์ ๑๑ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๕๓
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า สพฉ. มีการพัฒนาระบบการรับแจ้งเหตุสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้บกพร่องทางร่างกาย ทั้งการมองเห็น การได้ยิน และการพูด สพฉ. ยิ่งให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้การติดต่อสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์ปกติทำได้ไม่สะดวก

สำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและการพูดนั้น สพฉ. ได้จัดทำโครงการร่วมกับมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการและศูนย์บริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินและการพูด สามารถสื่อสารขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ โดยหากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถแจ้งเหตุผ่านแอพพลิเคชั่น TTRS Video ของศูนย์ล่ามภาษามือ หรือสื่อสารผ่านตู้ TTRS ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 120 ตู้ ทั่วประเทศ ทั้งในสถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า และสถานีขนส่งมวลชน โดยผู้บกพร่องทางการได้ยินสามารถใช้ภาษามือสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผ่านวิดีโอคอลได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นจะมีการประสานงานต่อมายังศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 ของแต่ละจังหวัด เพื่อซักประวัติอาการ และระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุ รวมไปถึงการให้คำแนะนำในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งจัดส่งทีมผู้ปฎิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินไปให้ความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ สพฉ. ยังมีการพัฒนาแอพลิเคชั่น EMS1669 หรือแอพลิเคชั่นเรียกรถพยาบาลด้วย โดยผู้ป่วยฉุกเฉินสามารถกดเรียกรถพยาบาล แจ้งอาการและพิกัดที่อยู่ได้ทันที รวมทั้งยังมีการให้ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นขณะรอทีมแพทย์มาช่วยเหลือ ข้อมูลโรงพยาบาลใกล้เคียง และข้อมูลการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินด้วย

เลขาธิการ สพฉ. กล่าวต่อว่า สำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็น การแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ไม่ลำบากมากนักเพราะสามารถสื่อสารโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 ได้ตามปกติ แต่ที่สำคัญคือต้องผู้แจ้งจะต้องจดจำคือข้อควรรู้ 9 ข้อ ก่อนแจ้งเหตุฉุกเฉินให้ได้ คือ 1.ตั้งสติ และโทรแจ้งสายด่วน 1669 2.ให้ข้อมูลลักษณะเหตุการณ์ ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร หรือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินในลักษณะใด

3.บอกสถานที่เกิดเหตุ 4.บอกเพศ อายุ จำนวนผู้บาดเจ็บ 5.บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้บาดเจ็บ 6.บอกความเสี่ยงซ้ำ 7. แจ้งชื่อและเบอร์ติดต่อกลับ 8.ช่วยเหลือตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และ 9.รอชุดปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินมารับผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล

สำหรับข้อมูลคนพิการในขณะนี้ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้สรุปข้อมูลคนพิการล่าสุดว่ามีจำนวนทั้งสิ้น1,606,919 คน แบ่งเป็น เพศชาย 861,852 คน และเพศหญิง 745,067 คน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ