นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่กำลังหนาวเย็นเป็นผลทำให้มีเด็กเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจำนวนมาก เนื่องจากป่วยด้วยโรคติดเชื้อเฉียบพลันทางระบบหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด คออักเสบ หูอักเสบ หลอดลมอักเสบ โรคที่รุนแรงที่ต้องระมัดระวังในเด็กก็คือ โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ เป็นโรคที่อาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดหรือติดจากเชื้อโดยตรงได้ ปอดบวมมักพบในเด็ก สามารถติดต่อได้ทางการหายใจ น้ำมูก น้ำลาย และใช้ของร่วมกัน มีระยะฟักตัวของโรค 1-3 วัน หรืออาจนานถึง 1 สัปดาห์ในบางราย โรคปอดบวมเป็นโรคที่ควรระวังเป็นอย่างมาก เพราะโรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของกลุ่มโรคติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กแรกเกิดถึงขวบปีแรก
นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า ข้อมูลจากกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สคร.10 พบว่า ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม – 7 ธันวาคม 2558 ทั่วประเทศมีจำนวนผู้ป่วยโรคปอดบวมทั้งสิ้น 192,189 ราย เสียชีวิตถึง 406 ราย ส่วนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด ของ สคร.10 พบผู้ป่วย 24,197 ราย เสียชีวิต 2 รายที่ จ.อุบลราชธานี พบผู้ป่วยมากที่สุดที่ จ.ศรีสะเกษ 10,312 ราย รองลงมา จ.อุบลราชธานี 8,806 ราย จ.ยโสธร 2,737ราย ตามลำดับ
สำหรับ การป้องกันโรคปอดบวมในช่วงฤดูหนาว ขอให้ผู้ปกครองดูแลความอบอุ่นให้เด็ก โดยสวมเสื้อผ้าหนาๆ หรือเสื้อกันหนาว หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กเข้าไปในบริเวณที่ชุมชนแออัดหรือมีควันไฟในบ้าน ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ซึ่งทำให้มีโอกาสเป็นหวัดได้ง่าย นอกจากนี้ สามารถเพิ่มภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติเด็กได้ โดยหญิงหลังคลอด ขอแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งภูมิต้านทานจากแม่จะส่งผ่านไปให้ลูกทางน้ำนม เด็กจะไม่เจ็บป่วยง่าย นพ.ศรายุธ กล่าว