ดร.เสรี หรือ ดช.อี๊ดในวัยเด็ก เรียนหนังสือที่โรงเรียนในจังหวัดตาก เป็นนักกิจกรรมตัวยง เรียกว่าไม่เกี่ยงงาน ทำได้ทุกอย่าง ชอบเป็นผู้นำ ชอบคิดงานสร้างสรรค์ เป็นหัวหน้าห้องแทบทุกปี แถมการเรียนไม่มีตก เธอบอกว่า จะต้องได้ที่ 1 เท่านั้น หากได้ที่ 3 เธอจะรู้สึกผิดหวังมาก เรียกว่าเป็นคนมีแรงผลักดันตัวเองมาตั้งแต่เด็ก
แต่ชีวิตผกผันให้ต้องเข้ากรุงเทพมาเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เจอแต่คนเก่งๆ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ ยิ่งพยายาม เธอตั้งใจเรียนจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หลายที่ ด้วยคะแนนที่ดีเรียกว่าติดบอร์ดระดับประเทศเลย ทั้งๆที่เป็นเด็กสายศิลป์ เธอบอกว่า สมองเธอดี ติดหมอได้สบาย แถมเลขก็เก่ง แต่ความที่เธอกลัวเลือด จึงไปเรียนทางศิลป์ดีกว่า และเป็นที่มาของการได้ทุนเรียนเพราะคะแนนสูง เธอมีสิทธิ์ได้เรียนหลายที่ แต่ความที่เธอรักสวยรักงาม ไม่เอากีฬาทุกประเภท หากที่ไหนมีบังคับให้เล่นกีฬาหรือจับเธอซ้อมแบบทหาร เธอจะหนีไปเรียนที่อื่นทันที สุดท้ายเมื่อได้เลือกเรียนธรรมศาสตร์ ก็เป็นจุดที่ให้ ดช.อี้ดได้ขึ้นเวทีที่ต้องใช้ทักษะการพูดเป็นครั้งแรก นั่นคือการโต้วาทีของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพนักพูดมาจนถึงทุกวันนี้ ความที่เธอเรียนทางด้านภาษามาด้วย จึงทำให้เธอมีความรักทางภาษา พูดเพราะ พูดชัดเจน ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ และมีฝรั่งเศสอีกนิดหน่อย
ด้วยความที่เรียนเก่ง ใฝ่ดี มีความกล้า นายเสรีในขณะนั้น ได้เดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาจนจบทั้ง โทและเอก จากสาขาสื่อสารมวลชน การโฆษณา และศิลปะการสอน ด้วยความรู้คับกล่องขนาดนี้ จึงกลายมาเป็น ดร.เสรี ที่คนทั้งประเทศรู้จัก
ชีวิตได้ผกผันอีกครั้ง เมื่อกลับมาสอนวรรณคดีที่เมืองไทย และมีลูกศิษย์คนหนึ่งชักจูงได้เข้าไปสัมผัสงานหนัง และมีการทาบทามให้เธอเข้าร่วมการกำกับหนังเรื่องดาวเรือง และหลังจากนั้น ชีวิตการงานของเธอได้รุ่งโรจน์แบบยั้งไม่อยู่ ทั้งได้ไปร่วมออกทีวีในรายการโต้วาทีของคุณ กรรณิการ์ ธรรมเกสร "ทีวีวาที" ที่คนรุ่นนั้น ไม่มีใครไม่รู้จัก และได้ไปทำละคร ที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอ ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง "Boys in the Band" และก็แปลงมาเป็น "ชั้นผู้ชายนะยะ" ละครเวทีเรื่องนี้ออกฉายถึง 200 รอบในเวลา 6 เดือน เรียกว่ายาวนานจนเหลือเชื่อ ถือเป็นการกระตุกต่อมการเสพความบันเทิงของคนไทย ให้เข้าใจการดำเนินชีวิตของสาวประเภทสองโดยกว้างเป็นที่แรก
ปัจจุบัน อจ.เสรี ยังโลดแล่นอยู่ในวงการวิชาการและทำงานอย่างมีความสุข มีตำแหน่งสำคัญในสถานการณ์ศึกษาหลายแห่ง และยังออกสื่ออยู่อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดได้ข่าวว่า เธอจะไปเล่นหนังเรื่อง ฉันมีพ่อสองคน หรือ Fathers กระตุกต่อมทาง gender กันอีกล่ะค่ะ ท่านผู้ชม
ดร.เสรี วงษ์มณฑา จึงจัดว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของประเทศไทยที่มากความสามรถเรียกว่ารอบด้านก็เกือบได้ เพราะความกระตือรือร้นแต่วัยเด็ก ใฝ่ความรู้ตลอดเวลา รักความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ค้นคว้าความรู้ใหม่อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ดร.เสรีไม่เคยเชย และยังทำงานอย่างมีไฟให้เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ เด็กรุ่นหลังควรเอาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนคุณภาพ รายการ Love Language ขอชมเชยบุคคลคนนี้ และเป็นกำลังใจให้กับ ดร.เสรี วงษ์มณฑาสร้างสรรค์งานทางวิชาการ และการพูดให้เด็กรุ่นหลังสืบต่อไปนานๆ แฟนๆสามารถติดตามผลงานของ อจ.ได้จากหน้า Facebook fan page ชื่อ ดร.เสรี วงษ์มณฑา และดูคลิปสัมภาษณ์ย้อนหลังได้ในยูทูป และไปฟังเธอพูดในงานสัมมนาใหม่ล่าสุดเรื่อง การตลาดกับ Gen Y วันที่ 22 ธ.ค.นี้ โดยโทร.ติดต่อได้ที่ 02-185-8691 นะคะ รีบๆจอง ของดีเต็มเร็วนะคะ
ในภาพจากขวา คุณอัจฉรา กรรณสูต เจ้าของสถานีเพื่อการอนุรักษ์ มอบบัตรกำนัลจากฟองดูเฮ้าส์ให้แขกพิเศษของรายการ ดร.ดร.เสรี วงษ์มณฑา อจ.แอน ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ และเอ๋ กัญญารัตน์ พลาดิสัย
ติดตามรายการ Love Language and Love Talk ได้ทุกวันพฤหัสฯเวลา 20.00ถึง 21.00 ที่คลื่นอนุรักษ์ ดำเนินรายการโดย อจ. แอน ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ เอ๋ กัญญารัตน์ พลาดิสัย และเอิรธ วิศวะ เทพโสธร โดยฟังรายการได้ถึง 4 ช่องทาง FM 104.75 และ FM 88.25 หรือฟังทางเว็บสดๆได้ที่ www.anurakradio.com และฟังทางโทรศัพท์มือถือผ่าน app Tune in Radio หรือดูรายการย้อนหลังทาง youtube ได้ นอกจากนั้นท่านยังสมารถร่วมเล่นเกมส์ชิงรางวัลได้อีกมากมายทุกๆอาทิตย์ โดยโทรตรงเข้ารายการได้เลยที่ 02-278-5056