นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,300 ล้านบาท ในขณะที่กำไรขั้นต้นลดลงจากธุรกิจโรงงานสีที่เพิ่งเริ่มต้นยังมีผลขาดทุนและดึงผลการดำเนินงานในภาพรวม โดยจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ในระดับ 12-14% อย่างไรก็ตาม ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ประมาณกว่า 200 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
"ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง จากการที่ค่ายรถทยอยออกโมเดลใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกรถยนต์มีการเติบโตสูงถึง 100% ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นการเพิ่มยอดขายโดยไม่มีการลงทุนใหม่"นายวิวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ประเมินว่า แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในปี 2559 คาดว่าจะเติบโต 3-4% สอดคล้องกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีหน้าที่คาดว่าจะขยายตัว 3-3.5% โดยประเมินว่ายอดผลิตรถยนต์ในปีหน้าอยู่ที่ 2,000,000 คัน เป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 780,000 คัน และยอดผลิตเพื่อส่งออก 1,220,000 คัน
สำหรับในส่วนของธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี คาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัทประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 60 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ดี ธุรกิจโรงพ่นสีมีกำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) อยู่ที่ยอดขาย 500-600 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับประเภทชิ้นงานที่ผลิตว่าเป็นชิ้นงานขนาดใหญ่หรือเล็ก
"อนาคตธุรกิจโรงพ่นสีและชิ้นส่วนยานยนต์จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้รวมของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต และทำให้สัดส่วนรายได้ในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 30-35% ของรายได้รวม จากเดิมอยู่ที่ 20-25% ของรายได้รวม"นายวิวรรธน์ กล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 8-10% เมื่อเทียบกับปีนี้ ส่วนความคืบหน้าการเจรจาลูกค้าในประเทศจีน 1-2 ราย เพื่อรับงานแพ็คเกจจิ้ง มูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในกลางปีหน้า ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ