ด้านการแข่งขันการตลาดของโรงพยาบาลนั้น โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ป่วยที่มาใช้บริการ โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมาโรงพยาบาลฯ ได้รับมาตรฐาน ISO 2001 และมาตรฐานสากล JCI หรือ Joint Commission International ในระยะเวลาเพียง 1 ปี หลังจากเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองโรงพยาบาลสากล ที่เป็นมาตรฐานระดับเดียวกับโรงพยาบาลในประเทศสหรัฐอเมริการใช้ และในประเทศไทยมีเพียง 20 กว่าโรงพยาบาลเท่านั้นที่รับรางวัล JCI โดยเป็นโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพกว่า 15 โรงพยาบาลได้รับรางวัล JCI จึงจะเห็นได้ว่าทิศทางการวางแผนโรงบาลกรุงเทพเชียงใหม่นั้นมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยและความพร้อมที่จะให้การรักษาผู้ป่วยเป็นหลัก
สำหรับด้านการให้บริการด้านรักษาพยาบาลกับประชาชน ทางโรงพยาบาลได้วางเป้าหมายไว้ดังนี้
1. ให้บริการแก่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง (ภาคเหนือตอนบน) ซึ่งเป็นการดูแลที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนในพื้นที่ได้
2.ให้บริการแก่ประชาชนในประเทศที่จะมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เพราะปัจจุบันนี้การท่องเที่ยวไม่ได้จำกัดเพียงแค่คนที่มีสุขภาพดีเท่านั้น คนที่ต้องการมาท่องเที่ยวพร้อมรักษาสุขภาพไปด้วยในเวลาเดียวกันก็มี เช่น เคสการฟอกไต โรงพยาบาลมีเครื่องฟอกไตเทียมจำนวน 2 เครื่อง ที่พร้อมให้บริการสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางมาติดต่อธุรกิจ 2 - 15 วัน ซึ่งจะให้ท่านสามารถรักษาตัว และสามารถทำงานไปได้ควบคู่กันไปด้วยในเวลาเดียวกัน
3.กลุ่มของชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ทางโรงบาลกรุงเทพพร้อมที่จะให้การรักษาดูแลเป็นอย่างดีเช่นกัน ซึ่งอันดับแรกที่มาใช้บริการโรงพยาบาลกรุงเทพมากที่สุดจะเป็นชาวอเมริกา อันดับที่ 2 เป็นชาวยุโรป อาทิ เยอรมันนี, ฝรั่งเศษ, อังกฤษ และอื่นๆ อันดับที่ 3 เป็นชาวพม่า และอันดับ 4 เป็นชาวญี่ปุน
ส่วนด้านการลงทุนนั้น ในปีต่อไปจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในภาพของการเสริมการให้บริการของโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น กว้างขึ้น และครบถ้วน เช่น ศูนย์หัวใจ ปัจจุบันให้การดูแลในเรื่องของการให้ยารักษาพยาบาล และการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และการอมรมศึกษามาอย่างครบถ้วนคอยดูแลตลอดเวลา อีกทั้งยังจะมีการขยายจำนวนที่จะรับบริการให้ได้มากขึ้น โดยทำการขยายงานไปยัง โรงพยาบาลภาครัฐ เพื่อเป็นการช่วยผ่อนเบาภาระของทางโรงพยาบาลภาครัฐที่จะดูแลประชาชน สำหรับศูนย์กระดูกและข้อ ก็จะขยายให้ลึกถึงความเป็นเฉพาะทาง และแยกออกเป็นแผนก เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่ได้รับอันตรายจากกระดูกเรื่องของการเดินทาง และอุบัติเหตุฉุกเฉินที่มากขึ้น จึงถือได้ว่าด้านการลงทุนในปีถัดไปจะเป็นลงทุนในด้านสถานที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์มากยิ่งขึ้น เงินลงทุนที่จะใช้ในการลงทุนก็จะอยู่ประมาณ 300 ล้านบาทในครึ่งปีหน้า กล่าวคือทางโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ มีความพร้อมในเรื่องของการเคลื่อนย้าย รถพยาบาล อีกทั้งยังมีการติดต่อกับบริษัทประกันอย่างรวดเร็ว และมีความเชื่อมั่นระหว่างบริษัทประกัน+โรงพยาบาล+ผู้ป่วย เพราะฉะนั้นจึงทำให้สามารถดูแลเรื่องอุบัติเหตุฉุกเฉินได้ ทางโรงพยาบาลฯ มีห้องไอซียูที่ดี มีห้องผ่าตัดที่พร้อม และนี้ก็ คือ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินของทางโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ทำได้ดี ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ยังมีการช่วยเหลือโรงพยาบาลของรัฐ โดยมีการพูดคุยและตกลงกับทางรัฐอีกด้วย
เป้าหมายของการลงทุนของโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ วางเป้าไว้ว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลฯได้จะมีการลงทุนขึ้นอยู่ที่ประมาณสัดส่วน 4,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันนี้ด้ใช้ไปแล้ว 1,500 ล้านบาทที่เหลือก็ต้องมาทำแผนธุรกิจรัดดุมและสอดคล้องไปกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ตอนนี้โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 39 ไร่ใช้งานไปแล้ว 17 ไร่ ช่วงที่ผ่านมายอดผู้ป่วยเฉลี่ยประมาณวันละ 250 ต่อวันและมีผู้ป่วยที่แอดมิชชั่นอยู่ประมาณวันละ 27 ราย มีเตียงผู้ป่วยที่ให้บริการ 59 เตียง จะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปจนถึง 350 เตียงภายในระยะเวลา 3 ปี
ปัจจุบันโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ได้มีการสร้างพลาซ่า เป็นอาคาร 2 ชั้น ไว้บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลฯ ซึ่งประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านดอกไม้ ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์ความงามของทางโรงพยาบาล 7-Event S&P ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยจะแยกออกจากอาคารโรงพยาบาล ซึ่งเป็นมาตรฐานของโรงพยาบาลที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งได้เริ่มการก่อสร้างและลงทุนประมาณ 25 ล้านบาท และจะพร้อมเปิดให้บริการกลางเดือนธันวาคมนี้"