วันนี้ (๑๔ ธ.ค.๕๘) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา ด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก และสภาคนพิการไทยสู่อาเซียน ภายใต้หัวข้อ "ก้าวไปข้างหน้าสู่ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน พ.ศ.๒๕๖๘" มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานภายใต้ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนของประเทศไทย โดยมี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดการประชุม
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ ให้เป็นหน่วยงานประสานงานหลักในการดำเนินงานตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ฉบับ พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๕๘ ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนงาน จนทำให้มีผลการดำเนินงานในภาพรวมของประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ สำหรับแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน พ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งเป็นแผนงานฉบับใหม่สำหรับ ๑๐ ปีข้างหน้า เป็นส่วนหนึ่งของปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕ : ก้าวหน้าไปด้วยกัน (Kuala Lumpur Declaration on the ASEAN ๒๐๒๕: Forging Ahead Together) ที่ผู้นำอาเซียนได้ให้การรับรองในคราวการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๒๗ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก ๕ ประการ ได้แก่ ๑) เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ มุ่งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบทางสังคมของประชาชนอาเซียน ๒) มีความครอบคลุม มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม และส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ๓) มีความยั่งยืน มุ่งส่งเสริมการพัฒนาสังคมที่สมดุลและสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตของประชาชนอาเซียน ๔) มีภูมิคุ้มกัน มุ่งยกระดับความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อความเสี่ยงทางสังคมและเศรษฐกิจ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ ๕) มีพลวัต มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และเป็นสมาชิกประชาคมโลกที่มีบทบาทสูง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ดังปรากฏให้เห็นจากคำแถลงนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ ซึ่งให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการเตรียมความพร้อมดังกล่าว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สื่อสารมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบาย ของรัฐบาล
"สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค หน่วยงานภาครัฐภายใต้ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เครือข่ายองค์กร ด้านสิทธิสตรี เด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ องค์กรภาคประชาสังคม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวนกว่า ๓๐๐ คน" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย