นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอร์รี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกและ แบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) แล้วเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2558 เพื่อขออนุมัติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.077 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
ปัจจุบัน บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ประกันภัยรถยนต์ และประกันชีวิต มีทุนจดทะเบียนจำนวน 65 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วทั้งหมด มีจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก มีวัตุประสงค์ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ รวมถึงรองรับแผนการขยายกิจการ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลอัจฉริยะ ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลระบบไอทีที่สามารถเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้ละเอียดมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นด้วย
"ธุรกิจโบรกเกอร์เป็นธุรกิจที่มีช่องทางการเติบโตอีกมาก เอเอสเอ็น จึงเตรียมตัวระดมทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ ทั้งในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และขยายจำนวนพนักงานขาย เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้น เพื่อบริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) จะก้าวไปสู่การเป็นบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีการบริหารงานที่มีมาตรฐานระดับสากล และเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค" นางสาวปิ่นมณี กล่าว
นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการนายหน้าประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ เพื่อต้องการระดมทุนในการเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคต
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2558 เบี้ยประกันรับรวมของบริษัทฯ ยังคงเติบโตใกล้เคียงเป้าหมาย แม้ที่ผ่านมา จะเผชิญต่อความท้าท้ายเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังจะยังไม่สดใสก็ตาม แต่บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะรับมือต่อสถานการณ์ โดยส่วนหนึ่งคือการจับมือ 5 พันธมิตรเพื่อจัดหาธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ รวมถึงบริการใหม่ๆ ที่เป็นสินค้าเฉพาะที่เหมาะต่อกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของเอเอสเอ็น และพันธมิตร ซึ่งทำให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายความสำเร็จไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้านผลประกอบการในปี 2557 นั้น บริษัทฯ มีเบี้ยรับรวม 887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% จากปี 2556 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 153 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการรอบ 9 เดือนแรกของปี 2558 รายได้รวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีทั้งสิ้น 118 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม 110 ล้านบาท และ 49 ล้านบาทตามลำดับ โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 0.78 เท่า