นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คาลเท็กซ์เปิดเผยว่า "โครงการ "Caltex Fuel Your School: คาลเท็กซ์เติมพลังปัญญา ปลูกต้นกล้าเยาวชนปี 2" เป็นโครงการเพื่อสังคม ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และรู้สึกยินดีที่ได้เห็นความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน รวมถึงเจ้าของสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ในพื้นที่ และพนักงานอาสาสมัครของคาลเท็กซ์ที่มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ทำให้โครงการประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และรู้สึกดีใจที่เยาวชนไทยให้ความสนใจในการเข้าร่วมโครงการ โดยหวังว่าการจัดการแข่งขันครั้งนี้นักเรียนจะสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมของตนเองได้ โดยเฉพาะการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ การร่วมกันทำงานเป็นทีม รวมทั้งได้เรียนรู้ถึงการรู้แพ้ รู้ชนะ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีสืบไป"
การตัดสินโครงงานได้พิจารณาจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การแสดงให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่จัดทำขึ้น การแสดงหลักฐานการบันทึกข้อมูลอย่างเพียงพอ คุณค่าของโครงงาน รูปแบบการนำเสนอ และการจัดทำรูปเล่มรายงานโครงงาน ซึ่งหลังการพิจารณาอย่างคร่ำเคร่งของคณะกรรมการปรากฏว่า ทีมที่เข้ารอบสุดท้าย 15 ทีมจากทั้งหมด 43 ทีม ในโรงเรียนขยายโอกาส 10 แห่ง ในเขตจังหวัดสระแก้ว ต่างได้รับรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไปตามผลงาน ซึ่งก็สร้างความดีใจและเป็นกำลังใจให้น้องๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง และทางโครงการฯยังได้มอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 20 ชุด และสารานุกรมวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ชุด เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนทั้ง 10 แห่งที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ โดยทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทองได้รับโล่รางวัลและทุนการศึกษารวม 30,000 บาท พร้อมรางวัลพิเศษในการเดินทางมาทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ ได้แก่ ทีมโครงงานการศึกษาประสิทธิภาพการไล่ยุงของโลชั่นตะไคร้หอม จากโรงเรียนบ้านมหาเจริญ โดยนอกจากจะคว้ารางวัลเหรียญทองแล้ว ทีมโครงงานดังกล่าวยังได้รับรางวัลพิเศษการนำเสนอยอดเยี่ยมเป็นทุนการศึกษา 7,000 บาทอีกหนึ่งรางวัลด้วย
ทีมโรงเรียนบ้านมหาเจริญ เจ้าของรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ซึ่งมีสมาชิกในทีม 6 คน ได้แก่ ด.ญ.เกศมณี พึ่งจุ้ย ด.ญ.นวลละออง สังข์ชัยภูมิ ด.ช.ศรายุทธ หลงโทดา ด.ช.พาโชค เจริญคง ด.ช.อัครเดช วงษา และด.ช.ณัฐวุฒิ ทาวงษ์ เปิดเผยความรู้สึกหลังคว้าแชมป์โครงการ"Caltex Fuel Your School: คาลเท็กซ์เติมพลังปัญญา ปลูกต้นกล้าเยาวชนปี 2" ว่า "รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ซึ่งระหว่างการจัดทำโครงงาน ตั้งแต่การคิดโครงงาน การวางแผน รวมถึงการแบ่งหน้าที่การทำงานนั้น เกิดอุปสรรคและมีปัญหาบ้าง แต่ทุกคนในทีมมีความตั้งใจในการทำโครงงานครั้งนี้มาก จึงส่งผลให้โครงงานของกลุ่มพวกเราสำเร็จ และชนะเลิศในวันนี้ ต้องขอบพระคุณคุณครูที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับพวกเรา ขอบคุณพี่ๆ ทีมงานคาลเท็กซ์ ที่ได้จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับพวกเรา ทำให้เรารู้จักการทำงานเป็นทีม รู้จักถึงการวางแผนงาน และทำให้พวกเรากล้าแสดงออกมาขึ้น"
ด้านอาจารย์ภาวินี นาบำรุง อาจารย์ที่ปรึกษาของน้อง ๆ ทีมโรงเรียนบ้านมหาเจริญ ที่นำ 4 ทีม ฝ่าด่านกว่า 10 โรงเรียน ผ่านเข้ารอบสุดท้าย และสามารถคว้า 3 รางวัลใหญ่ไปครอง กล่าวถึงความรู้สึกในวันนี้ว่า "รู้สึกดีใจกับเด็กๆ มาก ภูมิใจกับความตั้งอกตั้งใจของนักเรียนทุกคน โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากๆ เด็กๆ ได้รับประสบการณ์และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ให้คำปรึกษากับเด็กๆ ตลอดทั้งโครงการ ตั้งแต่เริ่มมาอบรมเชิงปฏิบัติการ นำความรู้ที่ได้มาไปถ่ายทอดให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ มีใจเป็นหนึ่งเดียวพร้อมที่จะทำงานร่วมกันเป็นทีม รักการสืบค้นด้วยตนเอง พยายามให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของกระบวนการทำงานกลุ่ม ตามด้วยบอกเป้าหมายกับเด็กๆ ซึ่งผลที่ออกมาเกินความคาดหวังที่ได้ตั้งไว้ สิ่งที่สำคัญและเห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อจบโครงการคือ การสร้างเด็กให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และกับผู้อื่น สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณคาลเท็กซ์ที่สร้างประสบการณ์ใหม่นอกห้องเรียนให้กับเด็กไทย และเปิดโอกาสดีๆ ให้กับโรงเรียนของพวกเราค่ะ"
โครงการ "Caltex Fuel Your School: คาลเท็กซ์เติมพลังปัญญา ปลูกต้นกล้าเยาวชนปี 2" เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "Caltex Energy for Learning" โดย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ริเริ่มขึ้นเพื่อร่วมพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ สร้างโอกาสในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ให้กับเยาวชนไทย รวมถึงให้เกิดการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา เชื่อมโยงความรู้ที่ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อให้สามารถปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจและสังคมซึ่งนับได้ว่าเป็นการวางรากฐานที่เข้มแข็งให้กับสังคมในอนาคตได้อย่างแท้จริง