วันนี้ (17 ธันวาคม 2558) สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย จัดกิจกรรม One Gift for One Life รณรงค์ให้ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อ HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก พร้อมแนวทางการปฏิบัติ และการดูแลอย่างถูกวิธี แถมมอบของขวัญส่งเสริมสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้กับน้องๆ บ้านธัญญพร ดึง หมอก้อง - สรวิชญ์ สุบุญ ร่วมสร้างสีสันส่งมอบความสุขส่งท้ายปีเก่าภายในงาน ณ สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร ปทุมธานี
นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย เปิดเผยถึงอุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทยว่า "ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยส่วนมากพบในผู้หญิงช่วงอายุ 35-60 ปี โดยมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดที่ตรวจพบมากที่สุดในเพศหญิง อันดับสองคือมะเร็งเต้านม แต่ภายหลังได้มีโครงการตรวจคัดกรองระดับชาติซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จึงทำให้ในปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกลดลงมาอยู่ที่อันดับสองรองจากมะเร็งเต้านม หรือเรียกได้ว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่คร่าชีวิตของหญิงทั่วโลกในอันดับต้นๆ โดยทุกๆ 2 นาที จะมีผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน ขณะที่หญิงไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 7 คน ต่อวัน เป็น 14 คน ต่อวัน ซึ่งคิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นถึง 100% หรือเสียชีวิตประมาณ 4,500 คน ต่อปี โดยในแต่ละปีจะมีหญิงไทยได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 9,000 รายต่อปี ซึ่งร้อยละ 40-50 จะเสียชีวิตจากโรค ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก จะตกประมาณ 350 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจได้รับความทุกข์ทรมาน จากโรค หรือจากการบำบัดรักษา ปัจจุบันเป็นที่ทราบแล้วว่า สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก เกือบทั้งหมดเกิดจาก การติดเชื้อเอชพีวี HPV (Human Papilloma Virus)"
นพ.วิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เชื้อเอชพีวี (HPV) เป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านทางการสัมผัส โดยการสัมผัสที่หมายถึงนี้ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดก็คือ เพศสัมพันธ์ ผิวหนังหรือเยื่อบุอวัยวะเพศ หรือปากมดลูก เมื่อมีรอยถลอกหรือแผลจะทำให้เชื้อเข้าไปได้ เชื้อเอชพีวีมีอยู่ร้อยกว่าสายพันธุ์ แต่ชนิดที่จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมีประมาณ 15 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุประมาณร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้อีก 2 สายพันธุ์ที่พบบ่อย คือสายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งเป็นสาเหตุประมาณร้อยละ 90 ของโรคหูดหงอนไก่ โดยระยะเวลาตั้งแต่ติดเชื้อไวรัสจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งนั้น ใช้ระยะเวลาประมาณ10-15 ปี แต่อาจเร็ว หรือ ช้ากว่านี้ได้ และแม้ว่าในปัจจุบันมะเร็งปากมดลูก จะเป็นเพียงมะเร็งชนิดเดียวที่สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรองเป็นประจำร่วมกับการฉีดวัคซีน แต่หญิงไทยส่วนใหญ่มีความอายไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรอง ส่วนการฉีดวัคซีนเอชพีวีในปัจจุบันนั้น จะมีประโยชน์สูงสุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกเมื่อฉีดก่อนได้รับเชื้อเอชพีวี หรือก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่เป็นโรคแล้วแม้วัคซีนก็จะไม่สามารถรักษาโรคที่เป็นอยู่ได้ แต่ยังมีประโยชน์ในการป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ดังนั้นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนยังต้องตรวจ คัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอต่อไป"
สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ในฐานะองค์กรกลางที่มุ่งดำเนินงานเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของสตรีไทยที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์รวมถึงการเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ และการบริการแก่สมาชิกและแก่สาธารณชน จึงได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มสตรี และกลุ่มเด็กหญิง ซึ่งเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมกับการให้การป้องกันด้วยวัคซีน ภายใต้คำแนะนำจากคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติและองค์การอนามัยโลก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กหญิงผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือในวัยเรียนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ สมาคมฯ จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการ "One Gift for One Life" เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันมะเร็งปากมดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี ให้กับน้องๆ บ้านธัญญพร แห่งนี้ ซึ่งเป็นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันมะเร็งปากมดลูกในระยะยาว รวมถึงเพื่อช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปากมดลูก และลดความสูญเสียต่างๆ ที่จะเกิดจากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้จะนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศได้ อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อ HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก พร้อมแนวทางการปฏิบัติ และการดูแลอย่างถูกวิธี และสร้างความตระหนักให้หญิงไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก รวมถึงการเข้ารับการคัดกรองเป็นประจำทุกปี หรือการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกด้วยการฉีดวัคซีนเอชพีวี"
อนึ่งโครงการ "One Gift for One Life" เป็นอีกหนึ่งในภารกิจของสมาคมมะเร็งนรีเวชไทยที่ดำเนินการขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเชื้อเอชพีวี สาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก