นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ยานพาหนะโดยสารสาธารณะถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีผู้คนอยู่รวมกันจำนวนมาก หากมีการระบายอากาศไม่ดีอาจทำให้เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่แพร่กระจายได้ง่าย โดยแนวโน้มปีนี้เริ่มพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมา และจากการวิเคราะห์สถานการณ์โรคคาดว่าตลอดทั้งปี 2558 จะมีจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งประเทศประมาณ 90,000 ราย ในขณะที่รายงานการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรคล่าสุด ณ 13 ธันวาคม 2558 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่แล้วถึง 69,275 ราย เสียชีวิต 28 ราย ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ป่วยในเดือนธันวาคมจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและสูงต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า
เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่นี้เป็นวันหยุดยาว จะมีประชาชนที่เดินทางสัญจรโดยใช้ยานพาหนะโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมากคาดว่าจะมีมากกว่า 1.6 ล้านคนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนผู้ใช้บริการในช่วงเวลาปกติ ทั้ง รถเมล์/รถไฟ/เรือ/ทางอากาศ ภายในประเทศ (ข้อมูลของกระทรวงคมนาคม) ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงเทศกาลปีใหม่และช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค ได้นำชุดรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในยานพาหนะสาธารณะมอบให้กระทรวงคมนาคม เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันการแพร่กระจายโรคไข้หวัดใหญ่ในยานพาหนะสาธารณะ ประกอบด้วย 1.หน้ากากป้องกันโรค จำนวน 50,000 ชิ้น 2.เจลล้างมือขนาด 450 มิลลิลิตร จำนวน 5,000 ขวด และ 3.สื่อประชาสัมพันธ์แผ่นพับสติ๊กเกอร์ จำนวน 2,000 แผ่น
สำหรับข้อแนะนำในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่บนยานพาหนะสาธารณะในส่วนของผู้ให้บริการเน้นดำเนินการใน 2 ส่วนสำคัญ คือ 1.การดูแลผู้โดยสาร โดยหมั่นทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น ราวจับ เบาะที่นั่ง จัดตั้งจุดบริการหน้ากากป้องกันโรค และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สำหรับผู้โดยสาร รวมถึงการแจกแผ่นพับ ติดสติ๊กเกอร์เพื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2.พนักงาน หากมีบุคลากรในที่ทำงานป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ควรให้หยุดงานจนกว่าจะหายป่วย กรณีป่วยเล็กน้อยจำเป็นต้องมาทำงาน ใกล้ชิดผู้โดยสารจำนวนมาก ควรสวมหน้ากากป้องกันโรคและล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
ส่วนประชาชนทั่วไป แนะนำให้รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจล การสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากเมื่อไอ จาม และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกันกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดีเป็นเวลานานๆ หากมีอาการเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ และผู้มีโรคอ้วน ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 นายแพทย์อำนวย กล่าวในตอนท้าย