โดยมอส-ปฏิภาณ กล่าวว่า "ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้ลูกประสบความสำเร็จ ทั้งความรักที่มอบให้ การเอาใจใส่ การสนับสนุนเขาในเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่เรื่องอาหารการกินก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมพัฒนาการ และทำให้เขามีสุขภาพแข็งแรง พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในส่วนเรื่องของการเรียนของน้องโสน ผมเห็นว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมาก ส่วนตัวแล้วผมชอบเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว จึงอยากให้น้องโสนเก่งเรื่องภาษาด้วย เลยให้น้องเรียนโรงเรียนสองภาษา แต่ก็มีให้เรียนอย่างอื่นเพิ่มด้วย เช่น เรียนร้องเพลง ส่วนคุณแม่เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ เลยปลูกฝังให้น้องมีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก เราพยายามใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ กับเขา และสอนให้เขาเป็นเด็กดี เพื่อให้เขาเป็นคนที่เก่ง และคนดีควบคู่กันไป"
ด้านทันตแพทย์ พชร คุณพ่อคนเก่งอีกท่านยังกล่าวเสริมอีกว่า "การสอนให้ลูกอยู่นอกคอม ฟอร์ทโซนบ้าง ได้ลองท้าท้ายสิ่งใหม่ๆ บ้าง จะทำให้เขากล้าที่จะเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ หรือไม่กลัวที่จะทำไม่ได้ แม้แต่ความเครียดเล็กๆ น้อยๆ ก็มีส่วนในการเป็นแรงกระตุ้นให้เขาประสบความสำเร็จได้เช่นกัน" ทั้งนี้ลูกสาวคนเก่งของคุณพ่อพชร ยังได้รับทุนการศึกษา อาเซียน สกอลาชิป ไปศึกษาต่อชั้นมัธยมปลายที่ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย
และครูพี่แนน-อริสรา ธนาปกิจ ได้กล่าวเพิ่มเติมบนเวทีเสวนาในครั้งนี้ว่า ด้วยยุคปัจจุบัน เป็นยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เด็กๆ ที่เติบโตในยุคนี้มีการเรียนรู้และมีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างก้าวกระโดดตามไปด้วย พ่อแม่และผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กๆ ให้รู้จักใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ลูกๆ ได้ทำกิจกรรมอย่างหลากหลายเพื่อค้นพบตัวเอง โดยนอกจากการเรียนทางด้านวิชาการในโรงเรียนแล้ว พ่อแม่ก็ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นพบความสามารถและความถนัดของตนเอง ซึ่งเมื่อเด็กๆ ค้นพบแล้ว เราที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ควรส่งเสริมให้พวกเขาได้ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือพาไปเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้ความสามารถเหล่านั้นได้รับการพัฒนามากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ครูพี่แนนยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเด็กๆ ในยุคปัจจุบันอีกว่า "อย่ากลัวที่จะล้มเหลว และรู้จักที่จะมองหาอะไรใหม่ๆ มาท้าท้าย เพื่อที่จะได้ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง"