7 โรคผิวหนัง ในช่วงฤดูหนาวที่ต้องระวัง

อังคาร ๒๙ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๑๗:๑๘

ประธานประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

ช่วงฤดูหนาวในปีนี้ ถึงจะมาช้าไปสักนิด แต่ในหลาย ๆ จังหวัดของประเทศไทยต้องพบกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลง บางครั้งอาจมีฝนตกบ้างให้ชุ่มฉ่ำ หรือในเวลาใกล้ๆ เที่ยงกลับมีแสงแดดที่แรงจัด จนทำให้หลาย ๆ คนปรับตัวแทบไม่ทัน ทำให้เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะอากาศในช่วงฤดูหนาวนั้นเปลี่ยนแปลงบ่อยในแต่ละวัน เดี๋ยวจะสลับร้อนหรือสลับหนาวบ้าง แถมในบางพื้นที่อาจมีฝนตกบ้าง ทำให้ทุกเพศทุกวัยเจ็บไข้ได้ป่วยกันเป็นทิวแถว โดยเฉพาะเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ก็สามารถเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย สมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศไทยจึงอยากให้คำแนะนำเพื่อเป็นความรู้สู่ประชาชน เกี่ยวกับโรคผิวหนัง 7 โรคสำคัญที่ประชาชนควรพึงระวัง ดังนี้

1.โรคสุกใส หรือ บางคนเรียกอีสุกอีใส ส่วนใหญ่เกิดกับเด็กเล็ก วัยรุ่น จนถึงหนุ่มสาว แต่ถ้าเป็นในผู้ใหญ่แล้วมักจะมีอาการรุนแรง และมีโรคแทรกซ้อนมากกว่าในเด็ก โรคสุกใสเกิดจากจากเชื้อไวรัส (Varicella virus) ซึ่งเป็นเชื้อเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด ไวรัสชนิดนี้ติดต่อโดยการหายใจ หรือการสัมผัสถูกตุ่มแผลสุกใสหรืองูสวัดโดยตรง และการสัมผัสถูกของใช้ เช่น ที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ที่เปื้อนตุ่มแผลของผู้ป่วย ในขั้นแรกผู้ป่วยอาจมีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร และต่อมาจะเริ่มมีเป็นตุ่มน้ำ ใสๆเหมือนหยดน้ำขึ้นตามตัว ถ้าเป็นแล้วต้องระวังแบคทีเรียแทรกซ้อน และถ้าป็นในผู้ใหญ่ต้องห้ามแกะเกาเด็ดขาดเพราะจะเป็นหลุมแผลเป็นได้ง่าย

2. โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดสุกใส (Varicella virus) จะเกิดในผู้ที่เคยเป็นโรคสุกใสแล้ว เมื่อหายเชื้อไวรัสจะหลบเข้าไปในปมประสาทรับความรู้สึกโดยจะอยู่แบบไม่แบ่งตัว เมื่อร่างกายอ่อนแอ ไวรัสที่แฝงอยู่จะก่อให้เกิดอาการไข้และปวดรุนแรงตามแนวยาวของปมประสาท โดยจะพบเป็นกลุ่มของตุ่มน้ำใสเป็นแนวด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย มักจะมีอาการปวดแปล๊บบนบริเวณเส้นประสาทร่วมด้วย

3.โรคเริม เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม HERPES (Hsv--1/Hsv-2) เริมจะมีลักษณะเป็นกลุ่มของตุ่มน้ำขนาดเล็ก มีขอบแดง แต่ไม่เรียงตามแนวเส้นประสาท พบได้บ่อยที่บริเวณริมฝีปาก อวัยวะเพศ และก้น การติดเชื้อครั้งแรก มักจะมีไข้ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงมีอาการอักเสบ ผู้ที่เคยเป็นโรคเริมแล้ว จะมีโอกาสเป็นซ้ำในตำแหน่งเดิมได้บ่อย โดยมีสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดซ้ำ คือภาวะเครียด ภูมิต้านทานร่างกายต่ำลง พักผ่อนไม่เพียงพอ ใกล้มีประจำเดือน หรือถูกแสงแดดจัด เริมสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสตุ่มน้ำหรือแผล และการมีเพศสัมพันธ์

4. โรคหัด มักเป็นในเด็กอายุ 1 ปี จนถึงระดับประถมศึกษา โดยมักมีอาการไข้สูง ไอมาก ตาแดง คล้ายเป็นหวัด ต่อมามีผื่นแดงขนาดเล็ก ๆ ขึ้นทั่วตัว แขน และขา โรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ การป้องกันโรคหัด คือต้องรักษาสุขภาพให้ดีในฤดูหนาว อากาศเย็นควรใส่เสื้อผ้าหลายชั้น แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดและเด็กทุกคนควรทำ คือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด

5. โรคหัดเยอรมัน ผู้ป่วยมักมีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้น จะมีผื่นขึ้นที่หน้า คอ ลำตัว แขนและขา ผื่นมักขึ้นเต็มตัวภายในระยะเวลา 1 วัน และมีต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน โรคหัดเยอรมันเป็นโรคที่ติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นในเด็กทุกคนควรฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันตามเกณฑ์เพื่อป้องกันการเกิดโรค และมีความสำคัญว่าถ้าสตรีมีครรภ์เป็นขณะตั้งครรภ์จะทำให้ทารกพิการได้

นอกจากโรคที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสแล้ว โรคผิวหนังอักเสบที่อาจจะกำเริบช่วงหน้าหนาว ได้แก่

6. โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) เป็นโรคที่พบได้ทุกฤดู แต่ในช่วงฤดูหนาวผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง จะมีโอกาสเกิดมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคันผิวหนังรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยมักจะเกา ซึ่งการเกาอาจจะทำให้เกิดแผลติดเชื้อตามมา ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มักจะมีลักษณะผื่นเป็นผื่นแดง แห้งลอก มีอาการคันมาก มักเป็นที่บริเวณข้อพับแขน ข้อพับขา ใบหน้า แขน ขา และซอกคอ

7. โรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrtheic dermatitis) มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีสะเก็ดเป็นมัน ขอบเขตชัดเจน ผื่นชนิดนี้มักอยู่บริเวณร่องข้างจมูก หว่างคิ้ว หน้าหู และหนังศีรษะ เนื่องจากอากาศในฤดูหนาวทำให้ผิวแห้ง จึงทำให้ผื่นชนิดนี้มีโอกาสเกิดได้มากขึ้น

ถึงแม้ว่าโรคบางชนิดจะเป็นโรคทางอายุกรรม ซึ่งบางโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่ทั้ง 7 โรคจะมีความเกี่ยวข้องกับผิวหนังทั้งสิ้น ดังนั้น "การไม่เป็นโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" ทุกคนควรพึงระวังใส่ใจกับตัวเองสักนิด อากาศช่วงฤดูหนาวมักมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยอยู่เสมอ จึงควรทำร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำมาก ๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อมีการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงวันหยุดยาว ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องระวังสุขภาพตัวเองให้ดีที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๐ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท โรงแรมที่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของคุณ
๑๗:๑๔ คอนติเนนทอล เปิดตัวเทคโนโลยี Ac2ated Sound เมื่อหน้าจอแสดงผลสามารถส่งเสียงได้ !
๑๖:๑๑ ออปโป้ชวนสัมผัสความงามประเพณีไทย ผ่านภาพพอร์ตเทรต จากวิดีโอสารคดี สีสันใหม่ ในวันสงกรานต์
๑๖:๕๙ ล้ำไปอีกขั้น. ไฟน์ไลน์ซักผ้าเข้มข้น ดีลักซ์ เพอร์ฟูม คริสตัล บูเก้ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ Charming Booster
๑๖:๑๙ Phytomer Thailand เปิดตัวทรีทเม้นท์สำหรับผิวคนในเมืองที่จะต้องเผชิญภาวะฝุ่นละออง PM 2.5
๑๖:๒๕ เตรียมล็อคคิว หลิง-ออม ชวนแฟน ๆ ร่วมเบิร์ดเดย์ LINGORM BIRTHDAY CHARITY 2025 กดบัตร 20 เม.ย. นี้
๑๖:๓๐ โก โฮลเซลล์ ลุยเคาะรั้วมหาวิทยาลัย ชี้ช่องตำแหน่งงาน นำร่อง ม.มหาสารคาม เจาะนิสิตเฉพาะทาง เพิ่มผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ตอกย้ำ Brand Core
๑๖:๐๐ กรมการท่องเที่ยว ชวนผู้ประกอบการไทยอบรมออนไลน์ รู้ลึก เกณฑ์คุณภาพที่พักนักเดินทาง Home Lodge
๑๖:๓๑ MOTHER ส่งซิกผลงาน Q1/68 เริ่ด!
๑๖:๓๖ บี.กริม เพาเวอร์ ร่วมงาน Sustainability Week Asia 2025 ครั้งที่ 4 ฉายวิสัยทัศน์ ตอกย้ำผู้นำพลังงานสะอาด ก้าวสู่เป้าหมาย Net