ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจ SME อยู่ราว 3 ล้านราย หากประเมินโดยภาพรวมระบุว่า ควรจะมีเว็บไซต์ของ SME ราว 1 ล้านราย แต่ในความเป็นจริง กลับมีเว็บไซต์ SME ทั้งประเทศเพียง 3-4 แสนรายเท่านั้น หรือคิดเป็นสัดส่วนธุรกิจ SME เข้าสู่ออนไลน์เพียง 30-40% เท่านั้น ทำให้เห็นว่ายังมีโอกาสการขยายตัวด้านการตลาดออนไลน์ในประเทศไทยอีกมาก โดย 3 อันดับธุรกิจที่มีการใช้จ่ายเงินค่าโฆษณาต่อลูกค้า 1 รายสูงสุด ได้แก่ การเงิน, การศึกษา และ สุขภาพ
อย่างไรก็ตามสำหรับ SME นั้น การโฆษณาบนสื่อออนไลน์ถือเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมและเป็นเครื่องมือหลัก เพราะ 1) ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า 2) ตรงกลุ่มเป้าหมาย สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ซื้อในปัจจุบันที่ดูข้อมูลและซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ 3) เตรียมพร้อมสำหรับธุรกิจที่จะมีการซื้อขายผ่าน E-Commerce และการเข้าสู่การทำธุรกิจกับ AEC 4) มีความแม่นยำ และเป็นสื่อที่ให้ทุกธุรกิจสามารถใช้ได้ เพราะนอกจากงบประมาณจะไม่สูงแล้ว ยังสามารถวัดผลได้ อาทิ รู้ว่ามีคนโฆษณากี่คน, มีคนเห็นเว็บไซต์กี่คน,ค่าโฆษณาต่อวันเท่าไร มีลูกค้าติดต่อกี่คน, ขายสินค้าได้กี่บาท, กำไรต่อการทำโฆษณากี่บาท ฯลฯ 5) ลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าร้าน ค่าพิมพ์โบว์ชัวร์ เพราะพฤติกรรมผู้ซื้อในปัจจุบันไม่ได้มีการซื้อขายผ่านหน้าร้านอีกแล้ว
ทั้งนี้ สื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้ประกอบการ SME ได้แก่ Google เติบโต 30% เว็บไซต์ ที่เติบโต 40% และ Facebook เติบโตถึง 100%
โดย นายกัมพล เปิดเผยถึงทิศทางของโฆษณาออนไลน์ในปีหน้า 2559 ว่า "ปีหน้าประเทศไทยจะก้าวสู่ยุค AEC พร้อมๆกับการเริ่มเทคโนโลยี 4G เต็มรูปแบบ เชื่อว่าจะช่วยให้การทำตลาดออนไลน์คึกคักมากขึ้น iTopPlus ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการ Google Adwords Premier Partner อย่างเป็นทางการ?ทำให้เราเห็นว่าใน Google ยังมีเครื่องมือ ลูกเล่น และเทคนิคอีกมากมายที่ธุรกิจ SME สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ เครื่องมือแต่ละชนิดก็เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคคำค้นหา (Keywords) โดยต้องมีการวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจ ตรงกลุ่มเป้าหมาย, เทคนิคการประมูล(bid) คำหลัก (Keywords) เพื่อให้งบประมาณของคุณคุ้มค่าที่สุด, เทคนิคการกรองคำหลัก (Negative keywords) โดยไม่ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย, เทคนิคการปรับแต่งตำแหน่งโฆษณา (Advertise Average Position)เพื่อผลลัพธ์สูงสุด เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถแสดงการสืบค้นไปปรากฏในต่างประเทศ ได้อีกด้วย ซึ่งช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคอื่นๆได้อย่างดี
ส่วนโฆษณาบน Facebook นั้น มองว่า จะแข่งขันกันที่การจัดการกับ Facebook Content Admin คือ การสร้างจุดต่างของ Fanpage ด้วยเนื้อหาและรูปภาพใหม่ๆ สไตล์เฉพาะของธุรกิจ เพื่อให้เกิดEngagement กับผู้ติดตาม และที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปีหน้า และเชื่อว่าจะเติบโตอย่างชัดเจน คือ สื่อโฆษณาที่เป็นวีดีโอบน YouTube และ Instragram ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของเทคโนโลยี 4G ที่ Operator กำลังทยอยเปิดตัวเต็มรูปแบบ
ส่วนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางหลักของ SME ต้องรองรับ 2 ภาษา รวมถึงเตรียมขยายเพิ่มเติมสำหรับภาษาจีนและญี่ปุ่น ด้วยเช่นกัน ซึ่งเทรนด์ ตลอดความต้องการที่กล่าวมาข้างต้น iTopPlus พร้อมเป็นผู้ช่วยสนับสนุน SME ไทยในการการพัฒนาสื่อโฆษณาออนไลน์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง แข่งขันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมเป็นรากฐานสำคัญให้แก่เศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป" นายกัมพล ย้ำ