นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ TTA ไว้ที่ระดับ BBB+ และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ ไว้ที่ระดับ BBB โดยแนวโน้ม Stable หรือ "คงที่" ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า ทิศทางของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังผันผวน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดจะเริ่มต้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้วก็ตาม รวมทั้งความกังวลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมันโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น การคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของ TTA โดยทริส ในภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกเช่นนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและตอกย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ TTA ได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในด้านการแข่งขันของ TTA ในธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง และธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งของบริษัทฯ ตลอดจนความหลากหลายของธุรกิจ และงบการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากการเพิ่มทุนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ธุรกิจยังมีข้อจำกัดจากวัฏจักรอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง ซึ่งที่ผ่านมา TTA ตระหนักถึงอุปสรรคดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่มากขึ้นและลดความเสี่ยงจากการขึ้นลงของธุรกิจขนส่งทางเรือที่มีความผันผวน อีกทั้งเป็นการสร้างสมดุลให้กับโครงสร้างธุรกิจของ TTA ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังว่า ธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะสามารถรองรับความผันผวนของอุตสาหกรรมได้ในระยะปานกลาง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวด้วยว่า สำหรับปัจจัยที่ทริสเรทติ้งมองเป็นปัจจัยบวกอย่างมีนัยสำคัญนั้น มาจากความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของ TTA ที่จะช่วยปกป้องบริษัทฯ จากวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินยุทธศาสตร์ด้านการเงินและการลงทุนของ TTA ในปีที่ผ่านมา ที่เน้นหลักความระมัดระวัง รักษาสภาพคล่องและสร้างฐานเงินทุนให้แข็งแกร่ง เพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนทั้งจากภายในและภายนอก ทำให้บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่มั่นคง และพร้อมที่จะรับมือกับความผันผวน รวมถึงพร้อมที่จะขยายการลงทุนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม