บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อโครงการ BMW Service Apprentice Program เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ในระบบทวิภาคีต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ มอบทุนการศึกษาจำนวน 21 ทุน พร้อมจัดอบรมความรู้และฝึกฝนทักษะด้านยานยนต์ และในปี พ.ศ. 2558 นี้ยังได้เริ่มขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังส่วนภูมิภาคผ่านเครือข่ายอาชีวศึกษาของ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร
มร.ซีซ่าร์ บาดิลย่า ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "โครงการความร่วมมือในรูปแบบทวิภาคี ภายใต้ชื่อ BMW Service Apprentice ได้เริ่มโครงการมาจนถึงขณะนี้เป็นปีที่ 4 นอกเหนือไปจากการอบรมและพัฒนาศักยภาพตามหลักสูตรแล้ว ในปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ได้มอบรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู K 1200 S ให้แก่วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าใจหลักการในด้านการออกแบบและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของบีเอ็มดับเบิลยู"
"ในปีนี้ โครงการ BMW Service Apprentice ยังได้รับนักศึกษาในระดับภูมิภาคผ่านเครือข่ายของ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร ประกอบด้วย วิทยาลัยการอาชีพบางแก้วฟ้า จังหวัดนครปฐม และวิทยาลัยการอาชีพชุมแพ จังหวัดขอนแก่น นับเป็นจุดเริ่มต้นอันดีในการขยายขอบเขตความร่วมมือเพิ่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีความสามารถในต่างจังหวัดได้เข้าร่วมเรียนรู้และฝึกฝนทักษะจากบีเอ็มดับเบิลยูผ่านโครงการนี้" มร.ซีซ่าร์ กล่าวสรุป
โครงการ BMW Service Apprentice Program เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการศึกษาระบบทวิภาคีเยอรมัน-ไทย (German-Thai Dual Excellence Education (GTDEE) program) ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างทั้ง2 ประเทศ โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ร่วมกับหอการค้าเยอรมันไทย และผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ อบรมความรู้และฝึกฝนทักษะในสายงานด้านช่างเทคนิคให้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งนอกจากการเรียนรู้ด้านทฤษฎีแล้ว ยังรวมถึงการอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมของบีเอ็มดับเบิลยู และร่วมปฏิบัติงานกับช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญจากผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบอาชีวศึกษาของไทยและสร้างแรงงานฝีมือที่เปี่ยมด้วยทักษะและความสามารถระดับสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศถึงระดับสูงสุด และขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านศูนย์กลางการผลิตยนตรกรรมระดับโลก