ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 7 – 8 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารและทีมงานของบริษัทฯ นำโดย คุณกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการ เดินทางไปนำเสนอข้อมูลของบริษัท (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบันที่ประเทศสิงคโปร์ โดยร่วมกับ Credit Suisse Group ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งผลจากการโรดโชว์ในครั้งนี้ พบว่าได้รับความสนใจจากกองทุนต่างๆ เป็นจำนวนมาก และถือว่าเกินกว่าที่คาดไว้มาก
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลเพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับกองทุนต่างๆ โดยระบุว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งในและต่างประเทศรวมกว่า 336 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ,โครงการพลังงานลมในประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 170 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้าในการมีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่น้อยกว่าทั้งในและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 550-600 เมกะวัตต์
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับพันธมิตรที่ประเทศญี่ปุ่น นับจากช่วงนี้ยาวถึง 2-3 ปีข้างหน้า โดยกำหนดเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 250 เมกกะวัตต์ จากปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์อยู่ในมือ 65 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดหวังผลตอบแทนจากส่วนเงินลงทุน (EIRR) ไม่น้อยกว่า 12%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จจากการเพิ่มทุน RO (Right Offering) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมเป็นเงินกว่า 4 พันล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์รวมและส่วนผู้ถือหุ้นเติบโตและมีสถานะที่แข็งแกร่ง และส่งผลให้มีอัตราหนี้สินต่อทุนในปัจจุบันเพียง 1.10 เท่า ประกอบกอบยังมี Warrant ที่ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิได้ในอัตรา 1:1 ในราคา 27 บาทในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเมื่อรวมกับผลกำไรจากการดำเนินงานจากโครงการต่างๆ ที่ทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ประกอบกับบริษัทฯ จะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 มกราคม 2559 นี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งแสดงเจตจำนงเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวในวงเงินประมาณ 1 พันล้านบาท จะช่วยเสริมศักยภาพและยังผลให้บริษัทฯ มีเงินทุนเพียงพอต่อการลงทุนสำหรับโครงการในอนาคตได้ถึง 600-650 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นหลักประกันได้ว่าบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนโดยการเพิ่มทุนอีกในระยะ 3-5 ปีข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือว่า GUNKUL ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จาก Market Cap ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโตเป็น 30,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 15 เท่า อีกทั้งในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 87 เมกะวัตต์ (ถือสัดส่วน 67%) จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว และคาดว่าในปีนี้ช่วงเดือนมีนาคม 2559 จะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการวินด์ฟาร์มจำนวน 10 เมกะวัตต์ ในโครงการซับพลู 1-2 ที่ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ครบทั้ง 60 เมกะวัตต์ ได้ภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2559 นี้เช่นกัน
ดร.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2559 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 25% หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด ขนาดกำลังการผลิต 87 เมกะวัตต์ (ถือสัดส่วน 67%) และจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 2 โครงการคือ โครงการซับพลูวินด์ฟาร์ม 1,2 และ วายุวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ของ บริษัท พัฒนาพลังงานลม อีกทั้งภาครัฐยังได้ส่งเสริมโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการโซล่าสหกรณ์และราชการ โดยได้รับประกาศผ่านคุณสมบัติแล้ว 50 เมกะวัตต์ จากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างและจำหน่ายไฟฟ้าและรับรู้รายได้ในปี 2559 นี้
"บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น และโครงการวินด์ฟาร์มอีกสองโครงการให้เสร็จสิ้นตามแผนงาน รวมถึงการจัดหา PPA ในโครงการใหม่ครอบคลุมทุกด้านทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายความเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนและก้าวสู่บริษัทพลังงานสะอาดชั้นนำในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป" ดร.สมบูรณ์กล่าวในที่สุด