คุณครูเบญญาภา ศิริพันธุ์ หรือครูเติ้ลของเด็กๆ ครูประจำชั้นอ.1/3 เล่าให้เราฟังว่า การเรียนรู้เริ่มจากในสัปดาห์ที่1ในส่วนกิจกรรมภาษาไทย เด็กๆได้เรียนรู้พยัญชนะต้นและคำศัพท์ของหัวข้อเรื่องสิ่งที่เด็กๆอยากเรียนรู้ โดยคุณครูได้เปิดโอกาสให้เด็กๆ ช่วยกันโหวตเรื่องที่ตัวเองสนใจมากที่สุด และคุณครูจะให้เด็กๆช่วยกันทำกราฟเรื่องที่สนใจ จนได้มติเสียงส่วนใหญ่ของห้องว่าเด็กๆ อยากเรียนรู้เรื่อง ไอศกรีม มากที่สุดจำนวน 15 คน ซึ่งเด็กๆให้เหตุผลว่า เพราะชอบทาน และรู้ว่ามีหลายสีหลายรสชาติ การเรียนรู้ขั้นต่อไป ครูเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้พูดคุยและทำกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความรู้เดิมเกี่ยวกับเรื่อง ไอศกรีม อาทิเช่น ปั้นดินน้ำมัน วาดภาพ ประดิษฐ์เศษวัสดุจากความคิดของตนเอง เด็กๆยังได้ร่วมสนทนาถึงสิ่งที่เด็กๆอยากรู้เกี่ยวกับ ไอศกรีม และช่วยกันสืบค้นหาความรู้จากการร่วมกิจกรรมต่างๆเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับไอศกรีม โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ใช้คอมพิวเตอร์ในการ Search หาข้อมูลต่างๆที่ต้องการ โดยน้องข้าวป้อง ด.ช.จิรภาส ศิลปเสวี เล่าในฟังว่า ไอศกรีมนั้นมีต้นกำเนิดมาจากต่างประเทศในสมัยโรมัน ที่ทำมาจากหิมะผสมน้ำผึ้งและผลไม้ ต่อมาชาวจีนทำไอศกรีมโดยใช้ช้าวบดผสมกับนมสดที่เย็นจัด และเข้ามาแพร่ในไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 และคนนิยมเรียกว่าไอติม น้องข้าวป้องยังบอกอีกว่า พี่ๆอย่าเรียกกันผิดน่ะครับเค้าเรียกไอศกรีมไม่ใช่ไอติม โอ้โห้!ฟังอย่างนี้อย่าเรียกผิดกันนะคะคุณผู้อ่าน
จากนั้น น้องวิน ด.ช.เตชิต แสวงผล เดินมาแบ่งปันความรู้ให้เราฟังด้วยความตั้งใจว่า ไอศกรีมแบ่งออกเป็น 5 ชนิด 1.ไอศกรีมนม คือไอศกรีมที่ได้จากน้ำนม 2.ไอศกรีมดัดแปลงคือไอศกรีมที่ผลิตโดยใช้ไขมันชนิดอื่น เช่นน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าวกะทิ 3.ไอศกรีมผสม คือไอศกรีมดัดแปลงที่มีการเติมพวกผลไม้หรือช็อกโกแลตเป็นต้นครับ 4.ไอศกรีมหวานเย็น คือไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนม ผลไม้ เช่นไอศกรีมผลไม้ สุดท้ายน่ะครับ 5.ไอศกรีมผง หรือไอศกรีมเหลว น้องวินยังบอกอีกว่า ไอศกรีมผงหรือไอศกรีมเหลว ต้องนำน้ำมาเติม ตามสัดส่วนที่กำหนด แล้วผสมปั่นให้เข้ากันแล้วเอาไปแช่เย็นให้แข็งก่อนถึงกินได้ มาทางด้านของน้องโอโซน ด.ช.ในศีล พิมพ์วงศ์ ยังยกตัวอย่างอีกว่า ไอศกรีมมีหลายรสชาติ เช่นลอดช่อง เผือก ถั่วดำ ข้าวโพด และเรายังสามารถนำผลไม้ต่างๆมาทำเป็นไอศกรีมได้อีกด้วย อีกทั้งยังเชื่องโยงในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยการนับจำนวนรสชาติของไอศกรีมที่เด็กๆรู้จัก เล่นเกมนับจำนวนไม้ไอศกรีมใส่ลงในช่องตัวเลขให้มีจำนวนเท่ากับตัวเลขที่กำหนดไว้ เรียกได้ว่าเด็กๆได้เรียนรู้วิธีจากการทำไอศกรีมอย่างง่ายๆ ด้วยการสืบค้นจากหนังสือ อินเตอร์เน็ตหรือจากการดูวีดีโอการทำไอศกรีม และเมื่อเทศกาลวันลอยกระทงมาถึง ซึ่งเป็นประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมานานตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เด็กๆจะได้เรียนรู้ในการนำโคนใส่ไอศกรีมมาประดิษฐ์กระทงในรูปแบบต่างๆตามจิตนาการตามใจชอบซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมวิศวกรรมศาสตร์ในการเรียนรู้ และยังได้ไปทดลองลอยในสระจำลองอีกด้วย ภาพบรรยากาศในวันนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแห่งความสุขของเด็กๆอนุบาลกุ๊กไก่
หลังจากนั้น คุณครูได้แนะนำให้เด็กๆได้เรียนรู้ถึงอุปกรณ์ต่างที่ใช้ประกอบในการทำไอศกรีม ยกตัวอย่างเช่นเครื่องทำไอศกรีม เด็กๆได้ร่วมกิจกรรม Cooking ไอศกรีมกะทิสด ด้วยเครื่องทำไอศกรีมกันอย่างสนใจและสนุกสนาน โดยมีน้องไม้ ด.ช.ภาวิต ปรุงสิน ได้อาสาพาเราไปทดสอบการประกอบเครื่องทำไอศกรีม โดยเริ่มจากนำถังไม้ใส่ไอศกรีม มีเหล็กประกอบ เอาไว้ใส่น้ำแข็ง มีแท่งพลาสติกไว้คนน้ำแข็ง มันเป็นแท่งสียาวๆเหมือนดาบครับ น้องไม้เล่าต่อว่า เครื่องนี้มีมอเตอร์ไว้เปิด-ปิดเพื่อให้เครื่องไอศกรีมทำงาน พอเสร็จเด็กๆได้ชิมรสชาติฝีมือการทำไอศกรีมกะทิสดกันอย่างเอร็ดอร่อย อีกทั้งยังได้มีโอกาศได้ไปทัศนศึกษาที่โรงเรียนการอาหารนานาชาติ สวนดุสิต ในการไปครั้งนี้เด็กๆได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ตรงเรื่อง "ไอศกรีม" ทั้งในเรื่องขั้นตอนการผลิตรวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ และในสัปดาห์นั้น เด็กๆได้มีโอกาศประดิษฐ์ของที่ระลึกนำกลับบ้าน เพื่อให้เด็กๆได้ฝึกทักษะทางความคิดในด้านต่างๆ เช่นทักษะความคิดสร้างสรรค์ ในการออกแบบและทำตามแบบที่ออกไว้ ทักษะความคิดวิเคราะห์ในการเลือกสิ่งที่จะนำมาประกอบกัน เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านศิลปะให้น้องๆอีกด้วย หวังว่าคุณพ่อคุณแม่คงได้ชื่นชมผลงานของคุณลูกๆกันแล้วนะคะ
และในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนรู้แบบ Project Approach เด็กๆได้ร่วมกันนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนเรื่อง "ไอศกรีม" มาคิดช่วยกันประดิษฐ์สิ่งต่างๆตามที่ตกลงกันไว้อย่างตั้งใจ เพื่อส่งเสริมในการเรียนรู้ของวิชาพื้นฐานหลักๆ ซึ่งเด็กๆได้มีการแบ่งกลุ่มจำลองสิ่งที่ตนเองสนใจและช่วยกันทำหน้าที่ของตนที่เลือกไว้ เช่นฝ่ายสถานที่ก็ช่ววยกันจัดสถานที่ ฝ่ายทำของที่ระลึกก็ช่วยกันทำในช่วงเวลาที่รอกลับบ้าน เด็กๆช่วยเหลือกันโดยที่ครูไม่ต้องบอก ทำให้เกิดความสามัคคี ความมีน้ำใจ และความร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้เกิดเป็นนิทรรศการเรื่อง "ไอศกรีม" อย่างสมบรูณ์ตลอดจนจัดทำบัตรเชิญเพื่อเชิญคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองอีกด้วย พร้อมที่จะแสดงผลงานของตนเองให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านได้ประจักษ์ในความสามารถของเด็กๆในการเรียนรู้ ซึ่งได้สร้างความประทับใจแก่คุณพ่อคุณแม่และผู้เข้ามาเยี่ยมชมให้ทึ่งในผลงานน้องหนูชั้นอนุบาลกันถ้วนหน้า