เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ในการกำหนดนโยบายการบริหารงาน และวางแผนพัฒนายางพาราทั้งระบบอย่างครบวงจร ซึ่งระยะแรกนี้ คณะกรรมการ กยท. จะเร่งขับเคลื่อนการบริหารของ กยท. ที่ติดขัดอยู่ให้ลุล่วง เพื่อแก้ปัญหายางพาราให้เกษตรกรชาวสวนยางอย่างเร่งด่วนตามนโยบายรัฐต่อไป
ทั้งนี้ ครม. มีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยจำนวน ๘ คน มี พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เป็นประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ด้านประวัติของ พลเอกฉัตรเฉลิมฯ เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2498 จบการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 15 และวิทยาศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ 26 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต โรงเรียนเสนาธิการทหารบก นอกจากนี้ยังศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 21 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ทั้งนี้ พลเอกฉัตรเฉลิม เคยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยทูตทหารไทย กรุงบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี ต่อมาเป็นผู้อำนวยการกอง กรมยุทธการทหารบก จนเลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก และสุดท้ายดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ
สำหรับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ กยท. อีก 7 คน ที่ ครม. ได้แต่งตั้งในวันเดียวกัน ได้แก่ นายประสิทธิ์ หมีดเส็น ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง นายสังข์เวิน ทวดห้อย ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง นายสาย อิ่นคำ ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้แทนผู้ประกอบกิจการยางซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการค้า นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ผู้แทนผู้ประกอบกิจการยางซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตอุตสาหกรรมยาง และผู้แทนจากกรรมการโดยตำแหน่งอีก 6 คน ได้แก่ ผู้แทนกระทรวงการคลัง / กระทรวงเกษตรฯ / กระทรวงพาณิชย์ / กระทรวงมหาดไทย / กระทรวงอุตสาหกรรม และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีผู้ว่าฯกยท.เป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่งอีก 1 คน ขณะนี้เมื่อบอร์ด กยท. ครบถ้วนแล้ว พร้อมกำหนดประชุมนัดแรกเร็วที่สุดเพื่อเร่งแก้ปัญหายางพาราที่ค้างอยู่ ทั้งราคายางและกลไกเสริมอื่นๆ รวมถึงอุปสรรคปัญหาการบริหารของ กยท. เพื่อเร่งขับเคลื่อน กยท. และเงินกองทุนพัฒนายางพาราให้เดินหน้าต่อได้โดยเร็ว