กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดร.สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange) [BEX
] ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับพันธบัตรซึ่งออกโดยสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รวมมูลค่า 33,400 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange) [BEX
] และให้ทำการซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2548 สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ออกและจำหน่ายพันธบัตรชนิดไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือพันธบัตร และชำระคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 3 ชุด มูลค่ารวม 26,400 ล้านบาท ดังนี้
- ชุดที่ 1/2548 EFAI06OA มูลค่า 8,800 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปีพ.ศ. 2549 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.28 ต่อปี
- ชุดที่ 2/2548 EFAI07OA มูลค่า 8,800 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2550 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.26 ต่อปี
- ชุดที่ 3/2548 EFAI08OA มูลค่า 8,800 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2551 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.87 ต่อปี
พันธบัตรทั้ง 3 รุ่น กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกวันที่ 13 ของเดือน ม.ค., เม.ย., ก.ค. และ ต.ค. ของทุกปี จนถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA-
ด้านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ได้ออกและจำหน่ายพันธบัตรเมื่อวันที่ 18 ต.ค.2548 พันธบัตรดังกล่าวเป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือพันธบัตร และชำระคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนจำนวน 2 ชุด มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ดังนี้
- ครั้งที่ 10 EXIM08OA มูลค่า 6,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2551 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.10 ต่อปี
- ครั้งที่ 11 EXIM10OA มูลค่า 1,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2553 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.50 ต่อปี
พันธบัตรทั้ง 2 รุ่น กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกวันที่ 18 ของเดือน เม.ย. และ ต.ค. ของทุกปี จนถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน โดยเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2548 ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA+(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (Fitch Ratings (Thailand))
“การเข้ามาจดทะเบียนของหุ้นกู้ของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยใน BEX ทำให้เกิดมูลค่ารวมทั้งสิ้น 33,400 ล้านบาท และส่งผลให้เกิดมูลค่าคงค้างรวมใน BEX เพิ่มขึ้นเป็น 730,546 ล้านบาท” ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้กล่าว
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนในพันธบัตรดังกล่าว โดยติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ คือ 100 หน่วย และนักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลด้านการลงทุนของหุ้นกู้ดังกล่าวได้ที่ตลาดตราสารหนี้ [BEX
] โทร.0 2229-2782-91 หรือดูข้อมูลด้านการลงทุนของหุ้นกู้ดังกล่าวได้ที่ www.bex.or.th
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 /
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-229-2797--จบ--