บลจ.เมย์แบงก์ชูกลยุทธ์ลงทุนปี 59 พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เปิดกองทุนเมย์แบงก์ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ สร้างทางเลือกใหม่ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนไทย

จันทร์ ๑๘ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๔:๒๖
บลจ.เมย์แบงก์ ประเมินตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกครึ่งปีแรก 59 ยังผันผวนต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง หลังเศรษฐกิจจีนลดความร้อนแรง ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำ แนวโน้มสงครามในตะวันออกกลางและวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังพัฒนารอวันปะทุ แนะนักลงทุนประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุนเพื่อพลิกวิกฤติเป็นโอกาสหาผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน พร้อมเปิดตัวกองทุนเปิด 'เมย์แบงก์ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ' มูลค่าขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตลาดทุนทั่วโลก เจาะกลุ่มบริษัทที่มีนวัตกรรมและการเติบโตสูง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่ต้องการแสวงหาผลตอบแทนในอัตราที่ดีและสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง คาดโอกาสผลตอบแทน 2 หลักในระยะยาว

ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเงินตลาดทุนในครึ่งปีแรก 2559 ยังมีความผันผวนต่อเนื่องจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงซบเซาจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจของประเทศจีน ที่อยู่ในช่วงชะลอตัวลงทำให้ต้องประกาศลดค่าเงินหยวน ปัจจัยด้านภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตกต่ำ ความเสี่ยงด้านความขัดแย้งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่มีแนวโน้มเกิดสงครามและวิกฤติเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวนรุนแรงมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการประเมินตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกในรอบปีที่ผ่านมานั้นพบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยของการลงทุนในหุ้นทั่วโลกปรับลดลง 4.3% เช่น ผลตอบแทนในตลาดหลักทรัพย์ S&P 500 ของสหรัฐ มีผลตอบแทนลดลง 0.7% ตลาดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ลดลง 17% ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยลดลง 14% มีเพียงตลาดหลักทรัพย์ของยุโรปและญี่ปุ่น ที่มีผลตอบแทนเป็นบวกที่ 7.7% และ 8.1% ตามลำดับ ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลและความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน

"ปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังซบเซาต่อเนื่องจากปัจจัยการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อวิกฤติเศรษฐกิจโลกรอบใหม่และเป็นแรงกดดันสำคัญต่อความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นักลงทุนจะต้องระมัดระวังและศึกษาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเพื่อคัดเลือกกองทุนเปิดที่มีนโยบายการลงทุนที่ดีเลือกหุ้นที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงจากภาวะขาดทุนจากการลงทุนในระยะยาว" ดร.ตรีพล กล่าว

นายสุทิน แซ่โง้ว ผู้จัดการกองทุน ด้านตราสารทุน บลจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2558 นอกจากเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงและแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมหลักหลายเรื่องด้วยกัน อันได้แก่ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่องจากปี 2558 ถึง 30% การประมูลคลื่น 1800 และ คลื่น 900 เมกะเฮิร์ซ ที่ราคาสูงกว่าที่คาดการณ์มาก สร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะการแข่งขันในอนาคต รวมถึงปัญหาหนี้เสียของภาคธนาคารที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่หุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็ก ที่มีการเติบโตของผลประกอบการชัดเจนและไม่ได้อ้างอิงกับภาวะเศรษฐกิจสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนที่ดีกว่า

สำหรับปี 2559 นั้น บลจ. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น หากภาครัฐบาลสามารถขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ตามแผนงานได้ โดยมองการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจที่จะบริโภคและลงทุน ขณะที่นโยบายระยะสั้นเชื่อว่าจะมีทยอยออกมาตรการมาเพิ่มเติมจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไม่ให้สะดุด

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยก็ยังมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจหลายด้านที่ไม่อาจมองข้ามได้ เช่น หนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รายได้ภาคเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำหรือปัจจัยภายนอกอย่างเศรษฐกิจจีนโดยหากเกิดการถดถอยรุนแรง ก็ย่อมจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่อาจชะลอตัวลง ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

บลจ.เมย์แบก์ (ประเทศไทย) คาดว่าปี 59 ตลาดหุ้นไทยน่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกให้กับผู้ลงทุนได้ โดยคาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ที่ 1,400-1,450 จุด อ้างอิงระดับ P/E ประมาณ 14 เท่า ภายใต้สมมติฐานข้างต้น โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดี ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กลุ่มการแพทย์และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ขนส่งและโลจิสติกส์ โดยความเสี่ยงที่สำคัญของตลาดหุ้นไทยคือเศรษฐกิจจีนมีการชะลอตัวรุนแรง ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลงอีก หรือ สหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีโอกาสปรับลงต่ำกว่า 1,200 จุดได้

สำหรับ บลจ. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มีแนวทางในการบริหารกองทุนหุ้นไทย โดยเน้นลงทุนในหุ้นเป็นรายตัว ศึกษาบริษัทจดทะเบียนในเชิงลึกเพื่อเข้าใจโมเดลในการทำธุรกิจและประเมินโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยเชื่อว่าบริษัทที่มีความสามารถสร้างกำไรให้เติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ และราคาเหมาะสมกับอัตราการเติบโตดังกล่าว จะสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีให้กับผู้ลงทุนในระยะยาวได้

ด้านนายกิติวัจน์ อักรังษี ผู้จัดการกองทุน ด้านการจัดสรรการลงทุน บลจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจในช่วงปี 2558 จะซบเซาและมีผลกระทบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกลดลง ซึ่งส่งผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดทุนลดลงนั้น แต่สำหรับกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกในรูปแบบการลงทุนระยะยาวในบริษัทที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนทั่วโลก เช่น กลุ่มนวัตกรรม ทางการแพทย์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ปฏิวัติเทคโนโลยีและปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตและกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ สามารถเอาชนะความเสี่ยงจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุน โดยกองทุนดังกล่าว ในรอบปี 2558 สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 19.8% สะท้อนให้เห็นว่าแม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซาแต่ก็มีบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี ที่กองทุนดังกล่าวไปลงทุนเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้เสมอ

ทั้งนี้ บลจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จึงเปิดตัวกองทุนเปิด 'เมย์แบงก์ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ' หรือ M-UGG ระหว่างวันที่ 18 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2559 ขนาดมูลค่ากองทุน 1,000 ล้านบาท ราคาเสนอขาย 10.00 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมค่าธรรมเนียม Front – ended) กำหนดมูลค่าซื้อขายขั้นต่ำของการสั่งซื้อ 5,000 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้ผ่านบริษัทจัดการตัวแทนจำหน่าย เช่น บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง และตัวแทนที่บริษัทจัดการแต่งตั้ง

สำหรับกองทุนเปิด 'เมย์แบงก์ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ' เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ของ Baillie Gifford & Co. Limited ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูง ที่กำหนดหุ้นในพอร์ตการลงทุน 30-60 บริษัทชั้นนำของโลกและมีสัดส่วนการถือครองหุ้นไม่เกิน 10% ต่อ 1 บริษัท เช่น บริษัท Tesla Motor ผู้ผลิตเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ให้ผลตอบแทนในปี 2558 เท่ากับ 7.9% บริษัท Amazon.com ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ชที่ขายและจัดส่งสินค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ที่มีผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ 117.8% เป็นต้น

นอกจากนี้ กองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักนั้น ยังได้รับการบริหารจัดการโดยทีมงานที่มีประสบการณ์กับการลงทุนกับ Baillie Gifford มากกว่า 10 ปี และยังเป็นหุ้นส่วนบริษัท Baillie Gifford อีกด้วย โดยนับตั้งแต่ปี 2548 จนถึง 7 มกราคม 2559 สามารถสร้างผลตอบแทนสะสมโดยรวมอยู่ที่ 171.10% หรือเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10.90%

สำหรับกองทุนเปิด 'เมย์แบงก์ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ' มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนเพื่อสร้างความยืดหยุ่นด้านบริหารการจัดการเงินกองทุนให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา โดยคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวจะเป็นตัวเลข 2 หลัก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version