กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ธสน.
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ปรับโครงสร้างและตั้งฝ่ายงานใหม่เพื่อเร่งสร้างผู้ประกอบการ SME จำนวนมากและผลักดันให้เป็นผู้ส่งออกที่สามารถส่งออกได้ สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของชาติด้วยกำลังของผู้ประกอบการ SME
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยว่าขณะนี้ ธสน. ได้เร่งดำเนินงานตามแผนธุรกิจปี 2548 ที่เน้นการดำเนินงาน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านธุรกิจที่จะขยายยอดสินเชื่อให้ได้ร้อยละ 12 จากปี 2547 โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรม 5 กลุ่ม คือ อาหาร ยานยนต์ อัญมณี พาณิชย์นาวี เฟอร์นิเจอร์ และด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ตามนโยบายของรัฐบาลในการปรับโครงสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจโดยมุ่งเน้นการสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการ SME ตลอดจนเพิ่มบทบาทของธนาคารในการเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดกิจกรรมสนับสนุนการสร้างผู้ส่งออก โดย ธสน. ได้มีการปรับโครงสร้างในฝ่ายกลยุทธ์และรัฐกิจสัมพันธ์ให้มีส่วนงานที่ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกธนาคารเพื่อจัดกิจกรรมในการให้ความรู้และการพัฒนาผู้ส่งออกรายใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ ธสน. ดำเนินการมาโดยตลอด แต่จะเพิ่มบทบาทให้มากยิ่งขึ้นในปี 2548 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้ส่งออกให้แข็งแกร่งในทุกๆ ด้าน
กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวเพิ่มเติมว่า ธสน. ยังได้มีการตั้งฝ่ายงานใหม่ ได้แก่ “ฝ่ายพัฒนาธุรกิจขนาดย่อม” ทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับการส่งออก ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก การทำธุรกิจต่างประเทศ การดำเนินการด้านเอกสารชำระเงินระหว่างประเทศ รวมไปถึงการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ทั้งนี้จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมผู้ส่งออก SME เพื่อให้มีความสามารถในการก้าวสู่ตลาดสากลและรอบรู้การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจต่างๆ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนทางด้านบริการสินเชื่อและการรับประกันการส่งออก
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-1146--จบ--
- ๒๓ พ.ย. EXIM BANK ร่วมประชุมประจำปีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าในเอเชีย ครั้งที่ 29 สานพลังองค์กรพันธมิตรส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
- ๒๔ พ.ย. EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี คงเหลือ 6.35% ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบ บรรเทาภาระผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางและ SMEs
- ๒๓ พ.ย. EXIM BANK พบปะทวิภาคีองค์กรรับประกันระดับโลก สนับสนุนผู้ประกอบการไทยบริหารความเสี่ยงขยายธุรกิจส่งออกและลงทุนระหว่างประเทศ