งานสัมมนา “Two Decades of Investment Expertise and the Way Forward”

พุธ ๒๐ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๑:๕๖
KSAM คาดดัชนีสิ้นปีอยู่ที่ 1,432 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว การใช้จ่ายและลงทุนจากภาครัฐบาล รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนฯ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก

นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ปานกลาง ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยธนาคารกรุงศรีได้คาดการณ์ GDP ปี 2559 เติบโตที่ระดับ 3.2% โดยปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงเป็นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายและลงทุนจากภาครัฐบาล โดยการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มที่ขยายตัวได้ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนมากขึ้นในการใช้งบประมาณกลางและการเบิกจ่ายที่คาดว่าจะเร่งตัวในสัดส่วนที่สูงขึ้น"

"อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยงที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลงซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้การส่งออกของไทยยังไม่สามารถขยายตัวได้ ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ"

"บลจ.กรุงศรี คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงไว้ที่ระดับร้อยละ 1.50 ตลอดทั้งปี 2559 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายเพียงพอต่อภาวะเศรษฐกิจไทยที่ทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากการลดดอกเบี้ยลงอีกอาจมีประสิทธิผลต่อเศรษฐกินไทยค่อนข้างจำกัด ดังนั้นธปท. จึงให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาวมากกว่าภายหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน"

"สำหรับมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้นนั้น บลจ.กรุงศรี มีมุมมองว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงมีแนวโน้มผันผวนในระยะสั้น อย่างไรก็ตามในระยะยาว บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารทุน ที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนฯ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าปีนี้กำไรของบริษัทจดทะเบียนฯจะเติบโตได้ 10% และมีเป้าหมายดัชนีสิ้นปีที่ 1,432 จุด"

"สำหรับแนวทางการบริหารกองทุนตราสารทุนยังคงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนรายตัว โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการพบปะกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนฯ การวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนฯ ทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ รวมถึงการติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนฯ อย่างสม่ำเสมอ โดยในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยลงทุน หากมองย้อนหลังกลับไปช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน แต่กองทุนหุ้นเติบโตสูงภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.กรุงศรี อย่างกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ (KFSEQ) ก็มีผลการดำเนินงานที่เหนือกว่าตลาด"

Mr. Luke Spajic , Pd.D. Executive Vice President and Portfolio Manager ,PIMCO มีมุมมองว่า "อัตราดอกเบี้ยนโยบายธนาคารกลางทั่วโลกจะยังคงต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยที่ผ่านมา และการดำเนินการต่างๆของธนาคารกลางสหรัฐที่อาจเกิดขึ้นในปี 2559 จะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย ตลาดสินเชื่อ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้"

Mr.Tai Hui Managing Director , chief Market Strategist , Asia ,J.P. Morgan Asset Management

เปิดเผยว่า "บริษัทมีมุมมองว่าสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงรักษาสมดุลของเศรษฐกิจได้ดี อย่างไรก็ตาม ยุโรปและญี่ปุ่น ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดมาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณทางการเงินมากขึ้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าธนาคารของประเทศในกลุ่มจี 4 และเอเชียจะยังคงดำเนินนโยนาบอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป"

Mr.Ricky Tang Associate Product Manager , Multi-Asset , Schroder Investment Managementเปิดเผยว่า "ในปี 2559 การเติบโตในเอเชียจะยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากการเติบโตทั่วโลกไม่สามารถเพิ่ม อุปสงค์สำหรับการส่งออกของเอเชียได้ ในขณะที่การชะลอตัวของการเติบโตทางด้านสินเชื่อภายในภูมิภาคส่งผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนจากราคากลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลงลง เงินหยวนที่อ่อนค่า และตลาดหุ้นจีนที่ผันผวน รวมทั้งความเสี่ยงจากความผิดพลาดทางนโยบายจากจีนอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้น"

"อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงของตลาดหุ้นเอเชียในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคานั้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหุ้นปันผล ทั้งนี้หากอ้างอิงจากตลาดสหรัฐ จะพบว่าหุ้นปันผลนั้นมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดี เมื่อดัชนีความผันผวน (VIX) สูงกว่า 25 ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการหลีกเลี่ยงความไม่ชัดเจนของนักลงทุน ที่กลับมามองหาหลักทรัพย์ที่มีกระแสเงินสดและกำไรที่คงที่จากหุ้นที่ให้ปันผลสูงในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากนักลงทุนต้องการกระแสเงินสดหรือรายได้มากขึ้นจากหุ้นปันผลสูงในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งหุ้นปันผลสูงในเอเชียขณะนี้ก็มีคุณภาพดีกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโต ความสามารถในการทำกำไร และมุมมองในการประเมินมูลค่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ สำหรับตราสารหนี้ของเอเชียยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ และคาดว่าสกุลเงินต่างๆ ของเอเชียจะยังคงอ่อนค่าในปี 2559"

นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version