"จริงๆแล้วศิลปินไทยสร้างความโด่งดังในวงการศิลปะร่วมสมัยในเอเชียมากว่า 20 ปีแล้ว เพียงแต่ว่าทวีคูณยิ่งขึ้น เพราะมีประสบการณ์และแนวคิดต่างๆ สู่เวทีระดับสากลมาพอสมควร ฉะนั้นการส่งต่อรุ่นสู่รุ่นทำให้ศิลปินไทยเรามีทั้งประสบการณ์ ความกล้า และความสามารถในการทดลอง เพราะในเวทีระดับนี้เต็มไปด้วยความกล้าในการแสดงออกด้านความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสิ่งที่ศิลปินไทยไม่ทิ้งก็คือกลิ่นอายของความเป็นไทย และการบริหารเสน่ห์ความเป็นไทย อาจารย์สาครินทร์ เครืออ่อน ศิลปินศิลปาธรของไทย ถึงแม้ว่าท่านจะมีความสามารถสร้างผลงานไปสู่เวทีนานาชาติแล้ว ยังคงไว้ซึ่งความเป็นท้องถิ่นนิยม และความเป็นไทย เสน่ห์ตรงนี้เวลาออกไปแสดงแล้วทำให้มีความรู้สึกว่าความเป็นท้องถิ่นนิยมคู่ขนานกับความเป็นสากลนานาชาตินิยมด้วย ขณะเดียวกัน ยังได้นำผลงานไปจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะไทยร่วมสมัย Thailand Eye ณ หอศิลป์ Saatchi gallery กรุงลอนดอน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานในระดับนานาชาติ ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนางานด้านศิลปะและวัฒนธรรมไทยไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับโลก ทั้งนี้ จะมีงานเปิดตัวหนังสือ Thailand Eye ที่รวบรวมผลงานของศิลปินไทย จำนวน 23 คน เพื่อเผยแพร่ผลงานศิลปะร่วมสมัยของไทยให้เป็นที่ประจักษ์ต่อไป ในวันที่ 22 มกราคมที่จะถึงนี้ เวลา 18.30 น. ณ Author's Lounge โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ"ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว
นายสาครินทร์ เครืออ่อน กล่าวถึงความรู้สึกภายหลังเข้ารับรางวัล Prudential Eye Awards ว่า ตนได้ทำงานในวงการศิลปะมากว่า 20 ปี ก็รู้สึกประหลาดใจที่คณะกรรมการและผู้ที่อยู่ในแวดวงนี้มองเห็นความสำคัญ ซึ่งทุกๆประเทศในอาเซียนมีศิลปินเก่งๆ จำนวนมาก และโลดแล่นอยู่ในวงการศิลปะในระดับนานาชาติตลอดเวลา เพียงแต่ว่าบางทีคนไทยอาจไม่ทราบ เพราะติดตามเฉพาะบางวงการของศิลปะเท่านั้น ขณะเดียวกันศิลปินที่ทำงานศิลปะในระดับนานาชาติก็มากเช่นกัน ทุกวันนี้ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ และก็มีการติดต่อสัมพันธ์กันโดยเฉพาะระหว่างตัวศิลปินสม่ำเสมอ ก็เลยมองว่าในอนาคตอันใกล้นี้ศิลปะร่วมสมัยที่อยู่ในระดับแนวหน้า หรือในระดับนานาชาติก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ