นายอารีย์ พุ่มเสนาะ กรรมการผู้จัดการ บ. ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG กล่าวว่า บริษัทคิงส์แปน ได้แต่งตั้ง บริษัท ซี.ไอ. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ Kingspan ซึ่งเป็นผู้ผลิตผนังสำเร็จรูปคุณภาพสูงจากประเทศอังกฤษ โดยใช้โฟมชนิด PIR และ IPN ที่มีคุณสมบัติที่สามารถทนไฟ และไม่มีสารระเหยที่เป็นพิษต่อร่างกายในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ สามารถกันความร้อนจากภายนอกได้ดีเยี่ยม และยังมีพื้นผิวที่หลากหลาย ที่ทำให้สถาปนิกและเจ้าของอาคาร สามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย และลดเวลาการติดตั้งมากกว่า 50 เปอร์เซนต์ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ Kingspan ยังมีระบบหลังคาสำเร็จรูป ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน กันความร้อน กันไฟ และไร้รอยรั่วมาจำหน่ายอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ทุกชนิดภายใต้แบรนด์ Kingspan เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED หรือมาตรฐานอาคารเขียว
นางสาวรัตนกมล พุ่มเสนาะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้ดูแลด้านการตลาดของ บจม. ซี.ไอ. กรุ๊ป กล่าวถึงแผนการตลาดของบริษัทในส่วนของผลิตภัณฑ์ Kingspan ว่า บริษัทจะมุ่งทำตลาดที่ผนังภายนอกอาคารซึ่งในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ Kingspan เป็นผู้ผลิตผนังสำเร็จรูปภายนอกอาคารรายแรกและรายเดียวที่ในประเทศไทย โดยมีคุณสมบัติพื้นผิวสัมผัสที่โดดเด่นงดงามและสามารถกันไฟ โดยมีใบรับรองตามมาตรฐานสากลรายแรกของเมืองไทย นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้นำผนังภายในอาคารสำเร็จรูปสำหรับใช้ในโรงพยาบาลมาใช้เป็นรายแรกในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งจะสามารถใช้สำหรับห้องผ่าตัด และห้องอื่นๆ ที่ต้องการความสะอาดพิเศษเป็นต้น นอกจากนี้ทางบริษัทได้จัดกิจกรรม Shelter for Tomorrow โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ณ โรงแรม S31 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการออกแบบอาคารเขียว อาคารประหยัดพลังงานสำหรับอนาคตโดยใช้ผลิตภัณฑ์ Kingspan และก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิเช่น สถาปนิก, แพทย์, วิศวกร และผู้ประกอบการบริหารอาคาร นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมประกวดแบบภายใต้หัวข้อ Shelter for Tomorrow โดยผู้ชนะเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายจะได้ไปศึกษาดูงานการออกแบบอาคารที่ประเทศออสเตรเลีย
ผศ.รัชด ชมภูนิช คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า กรอบความคิดในการออกแบบ Shelter for Tomorrow ประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลักๆ คือ 1. Future movement 2. Green movement 3. New contemporary สังคมปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างประชากรโดยมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นซึ่งประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ฉะนั้นการออกแบบจะต้องคำนึงถึงปัจจัยดังกล่าวด้วย ประกอบกับการเติบโตของสังคมเมืองที่มีมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนที่ระบบไอทีเข้ามาเกี่ยวข้อง ล้วนเป็นส่วนประกอบที่มีผลต่อการออกแบบในอนาคตที่ผู้ออกแบบต้องคำนึงถึงและอีกปัจจัยสำคัญคือการผสมผสานวัฒนธรรมเข้าไปในงานออกแบบ ต้องพยายามชูอัตลักษณ์ของเราให้ชัดเจนขึ้นเพื่อเป็นจุดขายและตอบโจทย์ในส่วนลึกของผู้คนที่โหยหาความเป็นตัวตนของตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดตลาด AEC สิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดแข็งที่สร้างการแข่งขันในตลาด
"คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตร เรามีจุดแข็งในเรื่องการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปรัชญาของคณะฯ ที่สานต่อกันมาตลอด ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากเป็นการจุดประเด็นทางความคิดแล้ว ยังเป็นการขับเคลื่อนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกแบบ นอกจากคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยแล้ว การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พลังงาน ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถทำควบคู่กันไป ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากการระดมความคิดเห็นของนักคิดหลากหลายสาขาอาชีพแล้วยังจะมีการประกาศผลและแสดงผลงานของนิสิตนักศึกษาในการประกวดแบบภายใต้หัวข้อ Shelter for Tomorrow อีกด้วย"
สำหรับงานสัมมนา Shelter for Tomorrow จะจัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ห้องบอลรูมชั้น 5 โรงแรม S31