KTAMตั้งเป้าAUMโต7แสนล้านเน้นขยายฐานลูกค้ารายย่อย

จันทร์ ๒๕ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๔:๒๑
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2558 อยู่ที่ 617,621 ล้านบาท ซึ่งโตกว่าปี 2557 ประมาณ 4% โดยมาจากกองทุน Money Market ที่โตเพิ่มขึ้น 65% ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ประมาณ 98,200 ล้านบาท กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF ) โตเพิ่มขึ้น 10% และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF ) โตเพิ่มขึ้น 12.6 % นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการออกกองทุนใหม่ๆ เช่น กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid - Small Cap , กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น mai , กองทุนต่างประเทศ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่1( EGATIF) ขนาด 20,855 ล้านบาท และ บทบาทใหม่ในฐานะทรัสตี กองรีทส์กองแรก ได้แก่ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ (WHABT) ขนาดกองทุน 2,020 ล้านบาท

ส่วนในปี 2559 บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น 714,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2558 โดยบริษัทมีนโยบายขยายฐานลูกค้ารายย่อย และมีแผนออกกองทุนใหม่ๆทั้งในและต่างประเทศ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เริ่มบทบาทใหม่ ในเรื่อง PE Trust Manager และ PE Manager ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้ธุรกิจรายเล็กๆ ได้เติบโตในอุตสาหกรรมได้

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวในระดับต่ำ และจะเผชิญกับความผันผวนจากการดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกันในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงจากความตกต่ำของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์

แนวโน้มการลงทุนในตราสารทุน โอกาสการลงทุนจะอยู่ที่ตลาดหุ้นยุโรป และญีปุ่น ซึ่งเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง นโยบายการเงินผ่อนคลาย อัตรากำไรเติบโตสูง และระดับราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ได้สะท้อนความความหวังต่อเศรษฐกิจไปพอสมควรแล้ว

ส่วนของตลาดเกิดใหม่ ในครึ่งปีแรกจะเผชิญความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง ค่าเงินมีแนวโน้มอ่อนค่า การปรับลดลงอย่างมากของราคาหุ้น ทำให้เริ่มน่าสนใจลงทุน แต่ต้องจับจังหวะตลาด ซึ่งเรายังมองโอกาสการลงทุนในอินเดียที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตรากำไรอยู่ในระดับสูง ขณะที่จีน รอให้ตลาดมีเสถียรภาพ และต้องจับตาดูผลของการปฏิรูปเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทย ยังคาดหวังต่อแผนการลงทุนของภาครัฐ การเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว และการฟื้นตัวของภาคการบริโภค โดยภาพรวมตลาดหุ้นคาดว่าจะแกว่งตัวในช่วง 1,150 – 1,480 จุด

ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากสภาพคล่องที่มีอยู่สูงมาก และคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะคงในระดับต่ำไปถึงปลายปีเป็นอย่างน้อย ขณะที่คาดว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

กลยุทธ์การลงทุนหลักในปีนี้ บริษัทฯ คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3% - 6% โดยเน้นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความผันผวน และเน้นการลงทุนในตราสารทุน รวมถึงสินทรัพย์ที่สร้างกระแสรายได้อื่นๆ เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs/Infra fund

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version