นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "การสร้างทัศนคติ จิตสำนึก และความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งจำเป็นที่เราทุกคนต้องร่วมกันกระตุ้นให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของธรรมชาติที่อ่อนโยน ละเอียดอ่อน สวยงาม อีกทั้งเข้าใจถึงคุณประโยชน์ที่เกื้อกูลต่อการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ได้ตระหนักว่าสรรพชีวิตในธรรมชาติเหล่านั้นเป็นกลไกสำคัญที่จะรักษาไว้ซึ่งสมดุลของระบบนิเวศอันเป็นสิ่งค้ำจุนให้แก่ทุกสรรพสิ่งบนโลก จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่มีบุคคลมากความสามารถอย่าง นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งทราบกันดีว่าท่านเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติตัวยง และรักการถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก ทำให้ท่านมีภาพสวยงามอยู่มากมาย ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจในการจัดให้มีนิทรรศการภาพถ่ายธรรมชาติ "Wing & Wildlife : ปีกและพงไพร สายใยแห่งป่าเขตร้อน" ครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อหวังกระตุ้นให้สังคมหันมาใส่ใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น พร้อมยังได้หน่วยงานที่มีความพร้อมในการเผยแพร่ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมให้กับสังคม อย่างองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เข้ามาสนับสนุนการจัดแสดง ผมหวังว่านิทรรศการนี้จะก่อให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้สังคมหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพในผืนป่าเขตร้อน ซึ่งป่าเขตร้อนนั้นครอบครองความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตไว้มากที่สุด โดยประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศป่าเขตร้อนเช่นกัน หากเราได้ศึกษาและวิจัยอย่างจริงจัง เราจะพบว่าป่าให้ชีวิต น้ำให้ความร่มเย็น ป้องกันภัยแล้ง และประโยชน์อีกมากมาย ดังนั้นการหันมาใส่ใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติจะทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก ระหว่างมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติอย่างยั่งยืนสืบไป"
นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวว่า "การถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกที่ตนสนใจมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อครั้งที่ได้ไปศึกษาที่ประเทศออสเตรเลีย ได้พบเห็นสัตว์ป่าตามธรรมชาติมาอาศัยหากินอยู่ร่วมกับคนอย่างมีความสุข ทำให้เกิดความสนใจศึกษาพฤติกรรมและบันทึกภาพเรื่อยมา จนเกิดความรู้สึกผูกพันและหลงใหลกับธรรมชาติตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเมื่อได้มีโอกาสทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และต่อมาด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมที่สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงได้มีโอกาสเดินทางไปยังพื้นที่ทางธรรมชาติในแหล่งต่าง ๆ ทั่วทุกจังหวัด และได้เห็นสภาพป่าที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เสื่อมโทรมลงหลายแห่งได้เลยจุดวิกฤติเกินจะแก้ไขได้ จึงเกิดความคิดที่อย่างทำให้สังคมหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยการปลูกจิตสำนึกให้กับสังคมในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเราต้องทำให้ทุกคนรู้จักและเข้าใจในคุณค่าของธรรมชาติ วิธีที่น่าจะเข้าถึงและเข้าใจง่ายที่สุดคือภาพถ่ายที่บันทึกจากความเป็นจริง และด้วยปัจจุบันอุปกรณ์ถ่ายภาพมีความทันสมัย จะช่วยให้ได้เห็นเจาะลึกเข้าไปในความสวยงามอันมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่บางครั้งเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า รูปภาพที่บันทึกให้เห็นถึงความงามจากธรรมชาติ จึงเป็นสื่อที่สำคัญในการสร้างพื้นฐานความผูกพันให้เกิดขึ้นระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของนิทรรศการภาพถ่ายธรรมชาติ "Wing & Wildlife : ปีกและพงไพร สายใยแห่งป่าเขตร้อน" ในครั้งนี้"
ด้าน นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า "อพวช. มีภารกิจในการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ และธรรมชาติวิทยาให้กับสังคม รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบความไว้วางใจให้ อพวช. นำภาพถ่ายธรรมชาติมาจัดแสดงอีกครั้ง ที่ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ใจกลางเมือง ที่มีความสะดวกสบายในการเดินทางมาชมนิทรรศการ สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายธรรมชาติ " Wings & Wildlife : ปีกและพงไพร สายใยแห่งป่า เขตร้อน" จัดแสดงภาพเป็นชุดเรียงตามลักษณะของสัตว์ตามแหล่งภูมิศาสตร์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) "Wings" นำเสนอนกในถิ่นอนุรักษ์ต่างๆ จากทั่วโลก 2) "Wildlife" นำเสนอภาพสัตว์ป่าในแหล่งธรรมชาติของเมืองไทย ซึ่งใช้เทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า Camera Trap พร้อมเนื้อหาประกอบบรรยายภาพ และข้อมูลนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศ ซึ่งจะช่วยในการสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับผู้เข้าชมได้"
นิทรรศการภาพถ่ายธรรมชาติ " Wings & Wildlife : ปีกและพงไพร สายใยแห่งป่าเขตร้อน" เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.30 น. ณ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ชั้น 4 อาคารจัตุรัสจามจุรี สามย่าน กรุงเทพฯ หลังจากนั้น อพวช.จะนำนิทรรศการชุดนี้ไปจัดแสดงพร้อมกับ คาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช. ที่จะตระเวนไปจัดแสดงตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ต่อไป โดยมุ่งหวังว่านิทรรศการชุดนี้จะเป็นอีกพลังหนึ่งที่จะทำให้สังคมหันมาใส่ใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้นต่อไปในอนาคต