“Hybrid Cloud” เทรนด์ร้อนทั่วโลก เฟิร์ส ลอจิก – ออราเคิล จับมือช่วยธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสุดประหยัด-คล่องตัว

พฤหัส ๒๘ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๐:๓๗
การสำรวจล่าสุดพบองค์กรธุรกิจทั่วโลกส่วนใหญ่กำลังปรับตัวและเปลี่ยนมาใช้โซลูชัน Cloud มากขึ้นอย่างจริงจังในปี 2559 แต่ปัญหาคือการเปลี่ยนผ่านระบบงานไปสู่ Cloud-based solution นั้นมีปัญหาและความท้าทายหลายประเด็น เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างประหยัดและคล่องตัวที่สุด เฟิร์ส ลอจิกออราเคิล จึงจับมือเสนอ Hybrid Cloud พร้อมสุดยอดโซลูชันที่จะสามารถเตรียมความพร้อมให้แก่ทุกกลุ่มธุรกิจไทย

ไตรรัตน์ ใจสำราญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฟิร์ส ลอจิก จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายบุกตลาดเอ็นเทอร์ไพรซ์ไทยตลอดปี 2559 ด้วยการจับมือกับออราเคิลให้บริการแก่ทุกองค์กรธุรกิจที่ต้องการสร้างระบบงาน Cloud โดยยุทธศาสตร์หลักของบริษัทคือการให้บริการ Hybrid Cloud ที่ผสมผสานการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อการรองรับความต้องการในการทำ Cloud on premise และใช้งานร่วมกันกับ Public Cloud ได้เป็นอย่างดี

นอกจากบริการ Hybrid Cloud ที่เฟิร์ส ลอจิกจะทำภายในแบรนด์ Oracle บริษัทได้เตรียมทีม COE: Center of Excellence เพื่อช่วยลูกค้าและคู่ค้าในการลุยตลาดกลุ่ม ABC (Analytic - Big Data - Cloud) อย่างจริงจังด้วย

"ณ วันนี้ Oracle เป็นเพียงแบรนด์เดียวในตลาดเอ็นเทอร์ไพรซ์ที่มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมรองรับการทำงานกับ Cloud on premise และใช้งานร่วมกันกับ Public Cloud" ไตรรัตน์ กล่าว "เพราะออราเคิลในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่ได้มาจากแบรนด์ของ SUN นั้น นอกจากมีเซิร์ฟเวอร์ และสตอเรจ แล้วยังมี Oracle VM ที่เป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชวลไลซ์ที่รองรับการทำงานแบบ Consolidate ได้เป็นอย่างอีกด้วย"

ไม่เพียงแค่ปี 2016 เท่านั้น เพราะจากการสำรวจจาก IDC ยังชี้ว่า 80% ขององค์กรทั่วโลกจะมียุทธศาสตร์หลักที่ Hybrid Cloud ภายในปี 2017 จะเห็นได้ว่าตัวเลขนี้สะท้อนว่าไม่เพียงบริษัทไอที แต่ทุกบริษัทจำเป็นต้องยกระดับบริการ ลดต้นทุน รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ด้วยโซลูชัน Cloud คาดว่าเทรนด์นี้จะครอบคลุมทั้งภาคการผลิต ธุรกิจค้าปลีกและส่งรวมถึงกลุ่มคอนซูเมอร์ทั่วไป

เพื่อสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจทุกประเภท เฟิร์ส ลอจิก มีทีมงาน ห้อง และอุปกรณ์สำหรับเตรียมการเรื่อง Demo และ POC เรียกว่า COE: Center of Excellence โดย COE : Center of Excellence นี้จะมีทีมวิศวกรที่ได้รับการอบรมจากทางออราเคิลโดยตรง คอยช่วยเหลือลูกค้าและคู่ค้าให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ของออราเคิลได้เป็นอย่างดี และเกิดประสิทธิในการใช้งานสูงสุด

นอกจากนี้ ลูกค้าที่ต้องการสร้าง Cloud on premise ที่ง่ายและรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อการแข็งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นนั้นสามารถใช้โซลูชัน Oracle engineered systems ที่ปรับแต่งมาแล้วโดยวิศวกรของออราเคิล ได้แก่ Exadata Database Machine, Exalogic Elastic Cloud และ Oracle SuperCluster ซึ่งล้วนได้รับการพัฒนาจากความร่วมมือของทั้งทีมฮาร์ดแวร์และทีมซอฟต์แวร์ด้วยกัน ทำให้สามารถตอบโจทย์การสร้าง Hybrid Cloud ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของซอฟต์แวร์ดาต้าเบสของ Oracle ก็มีการพัฒนาไปจนถึงเวอร์ชันล่าสุด Oracle Database 12c ที่มีคุณสมบัติใหม่อย่าง Oracle Multitenant ที่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้แบบ Pluggable ทำให้ดาต้าเบสสามารถสลับการใช้งานระหว่าง Cloud on premise และ Public Cloud อย่างเช่น Oracle Cloud ได้ ซึ่งด้วยคุณสมบัติใหม่อันน่าตื่นเต้นที่มีอยู่ Oracle Database 12c จะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางด้านไอทีในการทำ consolidation, provisioning และ upgrades ในการวางแผนที่จะใช้งาน Hybrid Cloud ได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก Oracle Database12c ทำงานร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ซีพียู SPARC M7 เป็นหน่วยประมวลผลกลางที่มีถึงจำนวนคอร์มากถึง 32 และ 256-thread ซึ่งได้ใส่คำสั่ง SQL ลงในซีพียูชิพเซ็ตด้วยนั้น จะสามารถเพิ่มความเร็วในการประมวลดาต้าเบสให้เร็วขึ้นสูงสุด10 เท่าตัว

อย่างไรก็ตาม ในการวางแผนทำแพลตฟอร์ม Cloud on premise ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องคิดถึง เพราะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับองค์กร ซึ่งในส่วนของ Oracle Fusion Middleware ได้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มตามแนวคิดมาตรฐานเปิดเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงแอพพลิเคชันจากผู้ผลิตรายอื่น ทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ทันที ซึ่งในเวอร์ชัน 12c ล่าสุดของ Application Infrastructure, Service-Oriented Architecture และ Business Process Management ต่างก็รองรับการทำ Cloud on premise ได้เป็นอย่างดี ทำให้องค์กรที่เลือกใช้ สามารถวิวัฒนาการจากสถาปัตยกรรมในปัจจุบันให้รองรับ Cloud ได้ทันที

ผู้สนใจข้อมูลโปรดักต์ และโซลูชันการใช้งานต่างๆ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.firstlogic.co.th หรือสนใจผลิตภัณฑ์ติดต่อ 02-678-0478 ต่อ 3323, 3337

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ