เพิ่มขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2558 ทั้งนี้ ยอดขายโดยรวมสำหรับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2558คิดเป็น 12.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.53 แสนล้านบาท) โดยเพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 3.8เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพการตลาดที่มีการแข่งขันสูงรวมถึงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ส่งผลให้ยอดผลรายได้โดยรวมลดลง 4.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557
แม้ว่าแอลจีจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักต่างๆ สำหรับปี 2558 ยังคงถือว่าเป็นปีที่ท้าทาย โดยมีผลประกอบการตลอดทั้งปี 2558 อยู่ที่ 1.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.71 หมื่นล้านบาท) เทียบกับผลประกอบการปี 2557 ซึงอยู่ที่ 1.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.69 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากสภาพความต้องการของตลาดทีวีทั่วโลกที่ซบเซาลง รวมถึงยอดการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงปี 2558 ที่ลดลงได้ส่งผลให้ผลประกอบการตลอดทั้งปีอยู่ที่ 48.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.76 ล้านล้านบาท) เทียบกับเมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 50.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ
(ประมาณ 1.84 ล้านล้านบาท)
กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้รายงานผลประกอบการสุทธิประจำปีไตรมาสที่ 4 ปี 2558 อยู่ที่ 94.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.93 พันล้านบาท) โดยมีผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 4.09 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.47 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส
ทั้งนี้ เป็นผลลัพธ์มาจากการเติบโตของยอดขายทีวี OLED และ UHD TV แม้ว่ายอดผลประกอบการตลอดทั้งปีจะลดลงเมื่อเทียบปีต่อปีเนื่องจากตลาดทีวีทั่วโลกที่ซบเซาลงและอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ อ้างอิงจากผลการตอบรับที่ได้จากงานมหกรรมแสดงเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อผู้บริโภค ประจำปี2559 (CES 2016) แอลจียังคงเชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นปีที่สดใสสำหรับทั้งแอลจี OLED ทีวีและแอลจี Super 4K Ultra HD ทีวี โดยแอลจีได้วางแผนเพิ่มกิจกรรมการตลาดสำหรับทีวี โดยผลิตภาพยนตร์โฆษณาชิ้นแรกที่จะออนแอร์ในการแข่งขัน Super Bowl กำกับและควบคุมการผลิตโดย Jake และ Ridley Scott
กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ รายงานยอดขายที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 3.26 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.17 แสนล้านบาท) โดยเพิ่มจากไตรมาสที่แล้ว 12 เปอร์เซ็นต์ และคิดเป็นจำนวนเท่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ เนื่องมาจากยอดขายที่ดีขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 4ของปี 2558 ได้มีการส่งออกสมาร์ทโฟนจากแอลจีจำนวนกว่า 15.3 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากจำนวนการส่งออกภายในปี 2557 ที่คิดเป็นจำนวน 59.1 ล้านเครื่อง ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมต่างๆจากคู่แข่ง รวมไปถึงการแข่งขันทางด้านราคาจากสมาร์ทโฟนสำหรับผู้บริโภคกลุ่มใหญ่คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2559 ยังคงจะมีการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คาดว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงจำนวน 2 รุ่นออกสู่ท้องตลาดและปรับโครงสร้างต้นทุนจะช่วยให้ผลประกอบการประจำปี 2559 ฟื้นตัวขึ้น
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศมียอดขายสำหรับช่วงไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2558อยู่ที่ 3.31 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.19 แสนล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าเล็กน้อย โดยในประเทศเกาหลีใต้ มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี เนื่องจากกระแสความนิยมของเครื่องซักผ้ารุ่น TWIN Wash และตู้เย็นระดับพรีเมี่ยม ยอดขายที่แข็งแกร่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว อันได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ได้มีส่วนช่วยชดเชยยอดขายที่ซบเซาในทวีปอเมริกาใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลางและเครือรัฐเอกราช (CIS) ที่ยอดขายตกลงเนื่องจากความต้องการทางการตลาดที่น้อยลง อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันตก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ซึ่งอยู่ที่ 185.49 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.68 พันล้านบาท) และสำหรับยอดรวมในปีนี้คิดเป็น 847.75 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.05 หมื่นล้านบาท)ได้ช่วยให้แอลจีสามารถส่งท้ายปีได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ แอลจีได้คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อัลตราพรีเมี่ยม LG SIGNATURE ในปี 2559 จะช่วยกระตุ้นแบรนด์แอลจีในส่วนของผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในหลายตลาดที่มีการแข่งขันสูง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์เผยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสอยู่ที่ 9 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น449.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.62 หมื่นล้านบาท) เป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจกลุ่มอินโฟเทนเมนต์ ด้วยรายได้ที่เติบโตขึ้นในแต่ละไตรมาสของปี 2558 แอลจีได้ส่งท้ายปีด้วยยอดขายสุทธิที่ 1.58 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.69 พันล้านบาท) แอลจีคาดว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทคาร์และชิ้นส่วนยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์จะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในปี 2559 โดยเป็นผลมาจากการร่วมมือระหว่างแอลจีและเจเนอรัล มอเตอร์ส ในการพัฒนารถยนต์เชฟโรเลตไฟฟ้า ซึ่งแอลจีได้วางแผนยกระดับเพื่อมอบการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับการร่วมมือดังกล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558
รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของแอลจี อีเลคทรอนิคส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของIFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงเวลาสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินวอนต่อดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ ไตรมาสที่ 4 ปี 2558 อยู่ที่ 1,158 วอน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ