การเปิดให้บริการการจัดส่งในประเทศรูปแบบใหม่นี้ จะสามารถทำให้จัดส่งสินค้าได้ถึงผู้รับภายในวันถัดไป ในเขตพื้นที่หลัก ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ให้มีความพร้อมสำหรับการเตรียมจัดส่งสินค้า และมีระบบติดตามแสดงสถานะพัสดุภัณฑ์โดยละเอียดแก่ผู้ใช้บริการ โดยคาดว่าผู้ประกอบการ SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดจากบริการนี้
จากซ้ายไปขวา: คุณมัลคอล์ม มอนเตโร ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคุณเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประเทศไทยคุณโธมัส คิปป์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ
ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล (Deutsche Post DHL Group – DPDHL) ผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลก ได้ลงทุนเพื่อขยายการให้บริการมาสู่ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบบริการจัดส่งสินค้าแบบครบวงจร (end-to-end) ให้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ รวมไปถึงอีกหลายบริการที่โดดเด่นเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย
ระบบการจัดส่งที่ดีเยี่ยมเป็นหัวใจสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ จึงมุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ด้วยระบบการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมและการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ที่คล่องตัวไม่ติดขัด ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ได้จัดตั้ง ศูนย์กระจายสินค้า ขนาด 3,000 ตารางเมตรในกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายสถานีกระจายสินค้าอีกมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อมอบบริการจัดส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่มีการขยายตัวสูงขึ้น ดีเอชแอลจึงมีแผนที่จะขยายเครือข่ายสถานีกระจายสินค้าให้มีจำนวนขึ้นมากกว่าสองเท่า ภายในปี พ.ศ. 2560 รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนรถจักรยานยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดส่งให้เหมาะกับการจราจรภายในเมืองใหญ่ของประเทศไทย
ทั้งนี้ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ยังสามารถมอบบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป ด้วยจักรยานยนต์และรถบรรทุก ในพื้นที่เขตเมือง และบริการจัดส่งสินค้าภายใน 2 – 3 วัน ในพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการ สามารถใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery – COD) ซึ่งมีบริการนำส่งเงินค่าสินค้าคืนผู้ขายเป็นประจำทุกวัน และศูนย์บริการลูกค้า (call center) ที่สามารถให้บริการได้หลากหลายภาษา
"ดีเอชแอล ช่วยลดอุปสรรคการทำธุรกิจ #ecommerce ของผู้ประกอบการ SMEs ผ่านบริการจัดส่งรูปแบบใหม่: bit.ly/1TmIRwO" - TWEET THIS
การเปิดตัวดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของกลยุทธ์ 2020 (Strategy 2020) ของ กลุ่มบริษัทดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล บริษัทยังได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มธุรกิจ Mail เป็น Post - eCommerce – Parcel ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญทางด้านการให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดอีคอมเมิร์ซ อนึ่ง ดีเอชแอล เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 โดยให้บริการผ่านกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง และ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน
คุณโธมัส คิปป์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจสูง และด้วยตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ผนวกกับสมาร์ทโฟนเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เลือกเปิดตัวบริการจัดส่งภายในประเทศที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ 2020 ของกลุ่มบริษัท"
"นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นกว่า 3 เท่า มีมูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท (3.6 พันล้านยูโร) ภายในปี พ.ศ. 2563 และด้วยการลงทุนของดีเอชแอลในครั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นว่า เราจะอยู่ในจุดที่พร้อมรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี" คุณโธมัส กล่าวเพิ่มเติม
"DHL เล็งเห็นการเติบโตกว่า 3 เท่า ของตลาด #ecommerce #ประเทศไทย ซึ่งจะมีมูลค่าตลาดกว่า 1.4 แสนล้านบาท ภายในปี 2563: bit.ly/1TmIRwO" – TWEET THIS
คุณมัลคอล์ม มอนเตโร ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "เรามองเห็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญหลังจากที่ได้เห็นการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้มีการขนส่งสินค้าในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น แม้ตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันจะได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว จนถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม มูลค่าส่วนแบ่งของอีคอมเมิร์ซในตลาดค้าปลีกของประเทศไทย ยังถือว่าน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับประเทศที่มีการเจริญเติบโตสูง โดยยอดขายโดยรวมจาก อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 1.7 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ขณะที่ประเทศจีนมีมูลค่าสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์"
"ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซให้ความสนใจ ด้วยขนาดของตลาดที่คาดว่าจะโตมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละปี (ตั้งแต่พ.ศ. 2557 – 2563) ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดจากกลุ่มธุรกิจ SMEs จำนวนมากที่เริ่มขยับขยายกิจการมาใช้รูปแบบการขายออนไลน์มากขึ้น" คุณมัลคอล์มกล่าวเพิ่มเติม
คุณเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า "เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการอีคอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องมีบริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการมอบบริการที่มีมาตรฐานที่ดี ด้วยเหตุนี้ ระบบการจัดส่งที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ จึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ SMEs สามารถใช้เวลากับการบริหารธุรกิจหลักของบริษัท เพื่อให้มีการเจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้นบนพื้นฐานของระบบการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ"
"ความสำเร็จของเราในประเทศอินเดียและจีน แสดงให้เห็นว่าด้วยการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงระบบการจัดส่งแบบครบวงจร ( end-to-end ) ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอีคอมเมิร์ซ ทั้งในส่วนผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย ไปจนถึงกลุ่มบริษัทใหญ่ที่มีเครือข่ายในหลากหลายประเทศ เราจึงมั่นใจว่าบริการของดีเอชแอลจะช่วยให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่กำลังขยายกิจการเข้ามาในรูปแบบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีข้อได้เปรียบและสร้างจุดขายที่มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง" คุณมัลคอล์มกล่าวปิดท้าย