บริษัท บ้านไทยโฮม จำกัด ผู้นำด้านการสร้างบ้านระบบ Dry Work ด้วยนวัตกรรมจากยุโรป แถลงข่าวการลงนามความร่วมมือกับ 3 บริษัทชั้นนำของวงการวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท อาควาไลน์ โปรทาร์เก็ต จำกัด บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพและมาตรฐานของการสร้างบ้านด้วยนวัตกรรม ที่ล้ำสมัยเพื่อให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย ที่มาพร้อมทั้งคุณภาพ และราคาที่ถูกกว่า
นายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านไทยโฮม จำกัด กล่าวว่า บ้านไทยโฮมได้มีการพัฒนา ศึกษา และนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยในครั้งนี้ได้ลงนามความร่วมมือกับ 3 บริษัทชั้นนำของวงการวัสดุก่อสร้างเพื่อดึงนวัตกรรมวัสดุและเทคโนโลยีของแต่ละบริษัทมาใช้ในการสร้างบ้านด้วยระบบ "Dry Work" (ระบบแห้ง) ที่ปราศจากการก่ออิฐ ฉาบปูน ลดการใช้พลังงาน ลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน และย่นระยะเวลาการผลิตลงถึง 3 เท่าตัว ในงบประมาณเริ่มต้นเพียงตารางเมตรละ 9,000 บาท เท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของร่วมมือกับ บริษัท อาควาไลน์ โปรทาร์เก็ต จำกัด จะนำเอานวัตกรรมโครงสร้างอาคารที่คำนวณด้วยโปรแกรมที่พัฒนาเฉพาะของ LINDAB ประเทศสวีเดนมาใช้ ซึ่งสามารถระบุค่าความต้านทานต่อแผ่นดินไหว ค่าทนแรงลม และค่าความแข็งแรงต่างๆ อีกทั้งยังมีสล็อตช่วยลดความร้อน และลดเสียงรบกวน จากภายนอกได้เป็นอย่างดี
ด้านความร่วมมือกับบริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเอานวัตกรรม Small Spaces จากประเทศเยอรมนี มาเพิ่มประโยชน์การใช้สอยเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งยังประหยัดพื้นที่ และติดตั้งสะดวกรวดเร็ว เช่น โต๊ะทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอนได้ บานเลื่อนจัดเก็บอุปกรณ์ครัวที่สามารถพลิกปรับให้เป็นห้องนั่งเล่นได้ เป็นต้น
สำหรับความร่วมมือกับบริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ได้นำกระเบื้อง Full HD ที่ผลิตด้วยนวัตกรรม ฟูล ไฮ-เดฟฟิเนชั่น มาใช้ทำให้ลวดลายบนผิวหน้ากระเบื้องมีมิติ สวยสมจริง ทั้งลายไม้ หิน และลายกราฟฟิคต่างๆ
" ในการร่วมมือกันในครั้งนี้ของบริษัทฯ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบ้านนวัตกรรมด้วยระบบ "Dry Work" ได้มากขึ้น ทุกคนสามารถมีบ้านที่เหนือกว่าทั้งด้านคุณภาพและอายุการใช้งานเป็นของตัวเองได้ ในราคาที่ถูกกว่า โดยกลุ่มเป้าหมายในการรุกตลาดในปี 2559 จะมีด้วยกัน 5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าบ้าน กลุ่มผู้ประกอบการโรงงาน โกดัง กลุ่มผู้พัฒนาอสังหา กลุ่มปรับปรุงต่อเติมบ้าน กลุ่มผู้ส่งออก โดยในแต่ละกลุ่ม บริษัทฯ ก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน เช่น ในส่วนของนวัตกรรม ราคา และระบบองค์ความรู้ ที่จะช่วยให้แต่ละกลุ่มได้มีบ้านที่มีคุณภาพ ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด"
นายโอฬาร กล่าวในตอนท้าย ถึงแผนในปี 2559 ว่า หลังจากที่ บริษัทฯ เปิดตัวมากว่า 5 ปี และมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสานต่อความสำเร็จดังกล่าว นอกจากเน้นการพัฒนานวัตกรรมของการสร้างบ้าน วัสดุที่มีคุณภาพ โดยการจับมือกับพันธมิตรเพื่อได้ราคาที่มีความคุ้มค่าในคุณภาพที่เทียบเท่าระดับพรีเมียม บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายในการขยายธุรกิจ ผ่านการทำแฟรนไชส์ไปยังทั่วประเทศ โดยในปี 2559 จะเริ่มขยายไปยัง 10 จังหวัดเป้าหมาย อาทิ เชียงใหม่, แม่สอด, ขอนแก่น, อุดรธานี, สุราษฎร์ธานี,หาดใหญ่ เป็นต้น และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 25 แห่ง ภายใน 3 ปี
ทั้งนี้ บริษัท บ้านไทยโฮม จำกัด ผู้นำด้านการสร้างบ้านระบบ Dry Work ด้วยนวัตกรรมจากยุโรปได้เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2554 โดยได้นำนวัตกรรมจากยุโรปมาใช้พัฒนาการสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง อาทิ นวัตกรรมบ้านหายใจสะอาด ซึ่งเป็นนาโนเทคโนโลยี ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้เมื่อได้รับแสงฟลูออเรสเซนต์จากการเปิดหลอดไฟในอาคาร นวัตกรรมบ้านเพื่อผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งเป็นการออกแบบบ้านให้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุและเด็กแรกเกิด โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมแก่การอยู่อาศัย เช่น ผนังปลอดเชื้อแบคทีเรีย ผนังฟอกอากาศ ระบบพื้นปลอดภัยล้มไปไม่เป็นอันตราย ปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ระบบพื้นบ้านระดับเดียวกันทั้งหลัง ระบบกล้องวงจรปิด IP Camera ระบบนำไฟตอนกลางคืนและอื่นๆ อีกมากมาย ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 081 750 7775 หรือดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.baanthaihome.com และเฟซบุ๊คแฟนเพจ baanthaihome