ส่วนกรณีที่ ช่อง 7 ช่อง3 HD ช่อง อสมท. ได้ชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการโฆษณาและการบริการธุรกิจทั้งหมดมาออกอากาศในโครงข่ายโทรทัศน์ กิจการไม่ใช้คลื่น นอกเหนือจากประกาศตามที่ กสทช. กำหนดนั้น กสท.ได้มีมติให้มีหนังสือแจ้งทั้ง 3 บริษัท ถือปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตโดยเคร่งครัดและขอให้ดำเนินการป้องกันหรือแก้ไขมิให้ช่องรายการที่ตนได้รับใบอนุญาตถูกนำไปใช้ออกอากาศบนโครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิก
นางสาวสุภิญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีบริษัทไทยนิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด (ช่องรายการ TNN24) และบริษัท ทรู โฟยู สเตชั่น (ช่องรายการTRUE4U) ได้ชี้แจงเป็นหนังสือว่าอยู่ระหว่างการฟ้องร้องต่อศาลปกครองอยู่โดยขอโต้แย้งคัดค้านคำสั่งเรื่องการโฆษณาและการบริการทางธุรกิจเกินระยะเวลาที่ประกาศกำหนดและคดียังไม่ถึงที่สุด รวมทั้งถือได้ว่าได้รับทราบผลของคำพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้นที่มีคำตัดสินไม่ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ กสท. กรณีการเรียงช่องแล้ว การกระทำของทั้ง 2 บริษัทจึงมีเจตนาขัดคำสั่งคณะกรรมการโดยชัดแจ้ง รวมทั้งมีการออกอากาศโฆษณาบริการหรือสินค้าเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดประกอบกับมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 อยู่ จึงมีคำสั่งทางปกครองเตือนให้บริษัททั้ง 2 ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคดังกล่าว โดยให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากยังฝ่าฝืนหรือไม่แก้ไขให้ถูกต้อง กสท.อาจพิจารณากำหนดมาตรการทางปกครอง จำนวน 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละ 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง และในที่ประชุม กสท.ได้มอบหมายสำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งเตือนทางปกครองให้บริษัทฯแก้ไขการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขการเป็นผู้ได้รับอนุญาต กรณีนำช่องรายการอื่นมาออกอากาศต้องมีหรือได้รับสิทธิในการเผยแพร่ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญาอื่นใดที่จำเป็น และต้องได้รับสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญาที่จำเป็นในงานประกอบอื่นที่ติดมากับรายการดังกล่าวด้วย หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว กสท.อาจพิจารณาใช้มาตรการปรับทางปกครองต่อไป ทั้งนี้ได้มีการรับรองมติดังกล่าวเพื่อสำนักงาน กสทช.นำไปดำเนินการต่อไป...