นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า เพื่อให้เกิดคุ้มครองผู้บริโภคในระหว่างที่ทุกฝ่ายได้พยายามร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหา อนุฯได้เสนอมอบหมายให้สำนักงานทำหนังสือให้ทั้งสองบริษัทร่วมกันพิจารณาขยายระยะเวลาการหยุดให้บริการออกไปก่อนอย่างน้อย 30 วัน เพื่อให้ทั้งสองบริษัทมีเวลาในการกำหนดมาตรการเยียวยาผู้บริโภคให้ชัดเจน รอบคอบ รัดกุม และครอบคลุมผู้ที่จะได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีเวลาดำเนินการแก้ไขปัญหาไม่เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและมีการสื่อสาร ชี้แจงให้ผู้บริโภคได้รับทราบ ทำความเข้าใจ และตัดสินใจต่อกรณีดังกล่าวด้วยข้อมูลที่ถูกต้องรอบด้าน รวมทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิ่มเติมต่อไป
"ดิฉันอยากให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงผู้บริโภคให้มาก โดยเฉพาะการไปกระทบสิทธิ์ที่เขาเคยมีมาก่อน ถ้าเวลา 30 วันที่เอกชนระบุมาเองนั้นยังไม่พร้อมพอจะแก้ไขปัญหาสมาชิก เช่น ระบบคอลเซ็นเตอร์ การส่งกล่องชดเชย และบริการอื่นๆ ดังนั้น ทางเอกชนก็ควรขยายเวลาออกให้บริการ Z Pay TV ออกไปก่อน เพราะถ้าเยียวยาผู้บริโภคไม่ทันหรือไม่เป็นธรรมพอในเวลาจำกัด อาจนำไปสู่การฟ้องร้องเรียนตามมามากมาย สำหรับผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนตรงมาได้ที่สำนักงาน กสทช. โทรฟรี 1200 ร้องเรียน 1 ครั้ง ดีกว่าบ่นพันครั้ง ช่วยกันปกป้องสิทธิ์ของตนเอง" สุภิญญา กล่าว
วาระอื่นน่าจับตา ได้แก่ สำนักงาน กสทช. เสนอเรื่องการยกเว้นการดำเนินการตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ของบริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด วาระการกำหนดแนวทางการบังคับทางปกครองกับบริษัทไทยทีวี จำกัด ภายหลังมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตกรณีไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่เกี่ยวกับประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลทีวี ช่อง MVTV Family และช่องไทยทีวี โดยเสนอให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. เป็นต้นไป วาระการกำหนดแนวทางการดำเนินคดีปกครองที่ผู้ประกอบการฟ้องร้องขอให้ กสทช. เพิกถอนประกาศ เรื่องการจัดลำดับบริการโทรทัศน์ และ หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป(Must Carry) และวาระอื่นๆ ซึ่งสามารถติดตามผลการประชุมในวันจันทร์นี้…