กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส
เปิดตัวบริษัทในธุรกิจภาพยนตร์ด้วยการส่งผลงานสร้างฟอร์มยักษ์ที่เรียกเสียงฮือฮาทั่วทั้งวงการภาพยนตร์ไทยกับหนังโปรดักชั่นสุดเนี๊ยบเรื่อง “ซี-อุย” มาแล้ว ล่าสุด ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง แห่งค่าย แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ก็ออกมาเผยถึงโครงการต่อไปของบริษัทในปี 2548 ประเดิมด้วยการรับจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเรื่อง “จี้” ผลงานการกำกับของ ธนิตย์ จิตนุกูล พร้อมด้วยโปรเจ็คท์ร่วมทุนกับพันธมิตร โดย สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง กล่าวถึงแผนงานและนโยบายของบริษัทในปี 2548 นี้ว่า
“สำหรับในปี 2548 นี้ โปรเจ็คท์แรกที่แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ได้วางไว้ก็คือ การรับจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเรื่อง จี้ ของบริษัท เอ.จี. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งนี่ถือเป็นก้าวใหม่ของแม็ทชิ่ง ฯ ด้วย ในการรุกตลาดธุรกิจภาพยนตร์และเปิดช่องทางของบริษัทอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเราจะเริ่มจากการรับจัดจำหน่ายหนังไทยไปทั่วโลกจากประสบการณ์ที่เรามีอยู่ในด้านนี้เป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุที่แม็ทชิ่ง ฯ ตัดสินใจรับจัดจำหน่ายหนังเรื่อง จี้ ก็เพราะว่าผมได้พูดคุยกับทางคุณสมศักดิ์ ทรงธรรมมากุล ผู้บริหารของ เอ.จี. มานานแล้วถึงโปรเจ็คท์นี้ ซึ่งทางคุณสมศักดิ์เองก็อยากทำหนังใหญ่ แต่ขาดทีมจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ และทางด้านพี่ปื้ด ธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับฯ เรื่องนี้ ผมก็รู้จักสนิทสนมกับพี่เค้ามาตั้งแต่ทำหนังเรื่อง บางระจัน ด้วยกันที่ฟิล์มบางกอก พอรู้ว่าเป็นหนังตลกในรอบสิบปีของพี่ปื้ด ผมจึงรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที ประกอบกับช่วงนั้นผมได้เข้ามารับผิดชอบที่แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส ซึ่งมีทีมการตลาดและจัดจำหน่ายที่มีศักยภาพอยู่พอสมควร ผมจึงได้เสนอตัวไปโดยทางคุณสมศักดิ์ก็ตอบตกลง แม็ทชิ่ง ฯ จึงได้รับจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 3 ก.พ. 48 และสำหรับอนาคตของแม็ทชิ่ง ฯ นอกจากจะรับจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยแล้ว หากมีภาพยนตร์ต่างประเทศที่เนื้อเรื่องน่าสนใจและมีลู่ทางการทำตลาดเราก็พร้อมที่จะติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ที่หลากหลายแนวและได้รับสาระความบันเทิงแบบใหม่ ๆ ครับ”
“ส่วนโปรเจ็คท์หนังของแม็ทชิ่ง ฯ เอง เราก็จะมีหนังของเราเข้าโรงฉายในช่วงเดือน มี.ค.หรือ เม.ย. คือ เรื่อง แต่ชาติปางไหน ซึ่งมีผู้กำกับ 3 คน โดยตอนนี้อยู่ในระหว่างการตัดต่อและได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ก็เคยสัญญา แทน เพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องและในทางการตลาด ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะถูกใจคนดูหนังไทยแน่นอนครับ หลังจากนั้นเราก็จะมีโปรเจ็คท์หนังร่วมทุนกับฮ่องกง เรื่อง รีไซเคิล ภาพยนตร์ทุนสร้าง 150 ล้านบาทไทย ตามมาด้วยโปรเจ็คท์ใหญ่ที่แม็ทชิ่ง ฯ จับมือกับโปรดิวเซอร์ Superman Return สร้างหนังฮอลลิวู้ดแนวสยองขวัญเรื่อง Hunter ซึ่งถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมด ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วยภาพยนตร์ไทยอีก 2 เรื่อง โดยปีหนึ่งเราคาดการณ์ไว้ว่าแม็ทชิ่ง ฯ จะมีภาพยนตร์ออกฉายในโรงภาพยนตร์ประมาณ 3 — 4 เรื่อง ส่วนด้านธุรกิจบริการกองถ่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศ ในปีที่ผ่านมาเราก็มี โซนี่ พิคเจอร์ส กับ ฟูจิ ทีวี เข้ามาถ่ายในทำในประเทศไทย และในปี 48 จะมีโปรเจ็คท์จาก โซนี่ พิคเจอร์ส, Showbox ของเกาหลี และ ฮาคุโฮโด ญี่ปุ่น เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยอีก โดยคาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 5 - 6 เรื่อง นอกจากนั้นเราก็จะมีช่องทางอื่นในตลาดต่างประเทศมาเป็นส่วนเสริมให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปแบบมั่นคงด้วยครับ”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หลิน
0-2248-8079 มือถือ 0-1432-4725
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--