มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมในปีที่ผ่านมาว่า "ถึงแม้เศรษฐกิจในภาพใหญ่จะมีอัตราการขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ แต่สำหรับเอซุส ยังคงความแข็งแกร่งในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป ด้วยยุทธศาสตร์ในปีนี้ ที่เอซุสจะจู่โจมตลาดมากยิ่งขึ้น กับแนวทางที่จะเสริมประสบการณ์ให้กับลูกค้าอย่างครบถ้วน 360 องศา โดยตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ในปี 2559 ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว"
สำหรับภาพรวมของผลิตภัณฑ์เอซุสในปีที่ผ่านมา มียอดขายรวมกันในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ทั้งโน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อปปกติ เดสก์ท็อปออลอินวัน และกลุ่มอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรวมกันในประเทศไทยโดยประมาณ 1 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนมียอดขายคิดเป็นกว่า 60% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์เอซุสทั่วโลก ซึ่งกลุ่มของสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตมียอดขายแซงผลิตภัณฑ์กลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไปแล้ว ส่วนในด้านของรายรับจากยอดขายผลิตภัณฑ์ ก็คาดการณ์ว่าน่าจะสูงกว่ากลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
ด้านของกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในปี 2558 ที่ผ่านมา ยอดขายของเอซุสอยู่ในระดับที่ทรงตัว เมื่อเทียบกับข้อมูลของปี 2557 และเทียบกับคู่แข่งในตลาด โดยโน้ตบุ๊กเอซุสสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ยังคงครองอันดับ 3 ในตลาดโลก พร้อมทั้งเป็นอันดับ 1 ในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย ที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2
ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า ในปีนี้การเติบโตของยอดขายน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั้งโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์คาดว่าจะอยู่ที่ 26% เมื่อนับจากยอดขายทั่วโลกราว 20 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา คาดหวังว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านเครื่องในปีนี้
สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของเอซุส นับว่ามียอดการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยสมาร์ทโฟน Zenfone มียอดขายในระดับโลกนับเป็นอันดับ 5 เมื่อไม่รวมแบรนด์จากประเทศจีน ส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 2% จากทั้งหมด ตั้งเป้าในปีนี้จะมียอดขายรวมมากกว่า 36 ล้านเครื่อง ติดอันดับ 1 ใน 10 แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงสุดทั่วโลก และเอซุสยังตั้งเป้าว่าจะมียอดขายสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้อีกด้วย
ในประเทศไทย สมาร์ทโฟนเอซุส Zenfone มียอดผู้ใช้งานรวมกันนับตั้งแต่เปิดตัว Zenfone รุ่นแรกในปี 2557 สูงถึงกว่า 2,000,000 คน นับเป็นสิ่งที่การันตีความนิยมของผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ทำให้ในปีนี้ เอซุสตั้งเป้าว่ายอดขายสมาร์ทโฟน Zenfone ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของเอซุส ไม่รวมชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ สูงถึง 2,000,000 ชิ้น คิดเป็นอัตราการเติบโตที่สูงถึง 100% ภายในสิ้นปีนี้
กลยุทธ์ที่เอซุสเลือกใช้ในปีนี้ ก็คือเน้นการจู่โจมตลาดมากยิ่งขึ้น ด้วยความครบวงจร 360 องศา ทั้งด้านประสบการณ์การใช้งานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยนวัตกรรม ช่องทางการจัดจำหน่ายที่จะมีการร่วมมือกับคู่ค้า จัดตั้ง ASUS Shop อย่างเป็นทางการ มีการโปรโมตผ่านกิจกรรมทางการตลาดมากยิ่งขึ้นในหลายช่องทาง
และที่สำคัญคือการเสริมความแข็งแกร่งในด้านบริการหลังการขาย โดยมีแผนที่จะเพิ่มศูนย์บริการทั่วประเทศ จากที่ปัจจุบันมีรวมแล้วกว่า 21 จุด พร้อมเสริมการรับประกันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโน้ตบุ๊กบางรุ่นเป็น 2 ปีแบบ On-site Service ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ก็ตั้งเป้าว่าจะซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนให้ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในกรณีที่มีอะไหล่ คาดว่าจะสามารถให้บริการได้จนแล้วเสร็จภายในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง รวมถึงจะมีการเปิดคู่สายให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาผลิตภัณฑ์ 24 ชั่วโมง ซึ่งเอซุสตั้งเป้าจะเริ่มได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
นอกจากการประกาศความสำเร็จและกลยุทธ์ในปีนี้แล้ว ภายในงานยังมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในหลากหลายกลุ่ม ครอบคลุมทุกความต้องการ เริ่มจากสมาร์ทโฟน Zenfone Zoom ที่ได้รับการพัฒนามากว่า 2 ปี เพื่อให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องพร้อมการซูมแบบออปติคอลที่บางที่สุด ตามมาด้วย Zenfone Max ที่มีความโดดเด่นด้านระยะเวลาการใช้งาน กับแบตเตอรี่ภายในเครื่องที่ความจุสูงถึง 5000 mAh
กลุ่มคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ก็มีไฮไลท์คือโน้ตบุ๊กเอซุส ROG GX700 ที่ประสิทธิภาพสูง ภายในมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิระหว่างใช้งานได้สูงสุด 33% นอกจากนี้ยังมีโน้ตบุ๊กในซีรีส์ VivoBook ที่มาพร้อมจอความละเอียดระดับ 4K2K ภายในราคาระดับเมนสตรีม ด้านของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปก็มีการนำเอซุส Zen AiO Pro ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ภายใต้รูปทรงที่กะทัดรัดมาแสดงในงาน สื่อให้เห็นถึงความเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมในการวิจัยและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเอซุส
อีกกลุ่มของผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเสนอในงาน ก็คือคอมพิวเตอร์สำหรับสายงานองค์กรธุรกิจในซีรีส์ ASUSPRO ซึ่งในปีนี้ เอซุสจะเดินหน้าในผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อย่างเต็มตัว ด้วยข้อได้เปรียบทั้งความครบครันของผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก ออลอินวัน รวมถึงจอแสดงผล และผลิตภัณฑ์อื่นๆ สำหรับสายงานธุรกิจ รวมถึงมีซอฟต์แวร์จัดการระบบที่ครบวงจร