“MONO” เดินเกมรุกธุรกิจ ตั้งเป้ารายได้ปี 2016 : 3,000 ล้านบาท ดันธุรกิจภาพยนตร์ จัดตั้ง “ที โมเม้นต์” โกยรายได้

พุธ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๖ ๑๒:๓๓
บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ "MONO" เตรียมแผนเดินเกมรุกธุรกิจปี 2559 ในการเป็น 1 ในผู้นำธุรกิจมีเดีย-เอนเตอร์เทนเม้นต์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย สร้างความแข็งแกร่งให้กับช่อง MONO29 พร้อมเสริมไลน์ธุรกิจภาพยนตร์ หลังคว้ามือเก๋า "คุณวิสูตร พูลวรลักษณ์" ผู้คร่ำหวอดแห่งวงการภาพยนตร์ไทยมาร่วมงานในชื่อ "T MOMENT" (ที โมเม้นต์) เพื่อเพิ่มเป้ารายได้จากเดิมให้โตขึ้น 50 % ในปีนี้ คาดรายได้ปีนี้ทั้งกรุ๊ปอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท

คุณนวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO เปิดเผยว่า "ปีนี้คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ปีนี้ธุรกิจหลักของโมโนยังคงอยู่ในกลุ่มธุรกิจออนไลน์และโมบาย ในการให้บริการเสริมผ่านโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ล่าสุดเรามีการปรับรูปแบบการให้บริการจากเดิมเพื่อรองรับการให้บริการผ่านสมาร์ทดีไวซ์ให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แต่ขณะเดียวกันในปีนี้คาดว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลก็จะโตแซงหน้าธุรกิจโมบายและออนไลน์อย่างแน่นอน

โดยช่อง MONO29 จะเป็นฟันเฟื่องสำคัญที่จะพาเราไปสู่เป้าหมาย จากปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นการเจริญเติบโตของยอดโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้คาดว่ายอดโฆษณาจะโตขึ้นถึง 100-200% โดยล่าสุดมีการปรับผังเสริมคอนเทนต์ภาพยนตร์จากค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในลักษณะ Exclusive Partner อาทิ Warner, NBC UNIVERSAL, PARAMOUNT และ สหมงคลฟิล์ม โดยค่ายต่างๆ เหล่านี้จะส่งตรงภาพยนตร์ที่มีความสดใหม่ไม่เคยผ่านการฉายในฟรีทีวีช่องใดมาก่อน ซึ่งจะทำให้ผังรายการเราแน่นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงไพร์มไทม์ มีการเสริมเส้นช่วงเวลาหกโมงเย็นถึงสองทุ่มให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มช่วงละครหลังข่าวในวันจันทร์และวันอังคาร จากที่มีการปรับผัง ทำให้เรตติ้งโดยรวมของช่องขยับดีขึ้น และภายในปีนี้ตั้งเป้าให้เรตติ้งโตขึ้นอีก 100% ที่ผ่านมาได้กระแสตอบรับที่ดีจากเอเจนซี่และเจ้าของสินค้า ที่ได้ไว้วางใจให้ช่อง MONO29 เป็นหนึ่งในสื่อหลักในการโปรโมทและประชาสัมพันธ์สินค้า เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพคอนเทนต์ช่อง โดยมีตัวเรตติ้งเป็นตัวรับประกันความสำเร็จของช่อง ในปีนี้ธุรกิจทีวีวางเป้าไว้ถึงจุดคุ้มทุนอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าสามารถทำรายได้อย่างต่ำ 1,500 ล้านบาท

ในส่วนธุรกิจภาพยนตร์ เรายังคงรุกเดินหน้าต่อ เนื่องจากเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์หลักที่จะมาเสริมภาพรวมของโมโนกรุ๊ปให้สมกับเป็นผู้นำทางด้านมีเดีย-เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ โดยยังคงเดินหน้าเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวางแผนจะมีภาพยนตร์ออกฉายในปีนี้ประมาณ 24 เรื่อง โดยล่าสุดได้ประเดิมด้วยภาพยนตร์เรื่อง ยิปมัน 3 ซึ่งสามารถทำรายได้ไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ภาพยนตร์ที่เรานำเข้าทั้งหมดจะถูกนำมาให้บริการผ่าน MONOMAXXX (โมโนแม็กซ์) ที่พึ่งได้รับการรีแบรนด์มาจากดูหนังดอทคอม ในการให้บริการดูภาพยนตร์และซีรีส์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในราคาเหมาจ่าย 129บาท/เดือน โดยตั้งเป้าสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านราย เป็น 2 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้

ส่วนด้านการผลิตภาพยนตร์ไทย เราได้เสริมทัพกับ บริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ของ คุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ ผู้คร่ำหวอดแห่งวงการภาพยนตร์ไทยมาร่วมสร้างสรรค์ภาพยนตร์ไทยในนาม "T MOMENT" (ที โมเม้นต์) ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ในไตรมาส 3 น่าจะเห็นภาพยนตร์ของเราออกฉายสู่สายตาประชาชนทั่วไปได้ ซึ่งเรามองว่าธุรกิจนี้ยังสามารถโตได้อย่างต่อเนื่อง เราเชื่อในฝีมือของคุณวิสูตรในการผลิตหนังไทยให้มีคุณภาพ โดยตั้งเป้าจะผลิตภาพยนตร์ไทย 3-5 เรื่องต่อปี

ในส่วนธุรกิจเพลงเราได้เสริมการเป็นโซเชียลเรดิโอให้กับคลื่น MONO Fresh 91.5 (โมโนเฟรช 91.5) ซึ่งจะเป็นคลื่นที่เปิดเพลงฮิตในโลกโซลเชียล พร้อมทั้งนำเสนอเนื้อหาสาระบนโลกโซเชียลผ่านคลื่นนี้ด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันค่ายเพลงโมโนมิวสิคก็ยังคงดำเนินการต่อ แต่จะปรับรูปแบบการให้บริการ โดยเปิดโอกาสให้กับผู้ที่อยากเป็นศิลปินหรือบุคคลที่มีแฟนคลับในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเน็ตไอดอล ศิลปินรุ่นเก๋า มาร่วมทำงานเพลงกับเรา โดยโมโนจะเป็นตัวกลางเชื่อมในการโปรโมทศิลปินในรูปแบบมัลติแชนแนลเน็ตเวิร์ค (MCN)

สำหรับธุรกิจต่างประเทศ เราสามารถถึงจุดคุ้มทุนแล้วในประเทศพม่าและเวียดนาม และยังคงมุ่งเน้นขยายธุรกิจในประเทศจีนโดยเพิ่งได้เริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการ ในฐานะที่เราเป็นผู้ร่วมผลิตคอนเทนต์เพื่อป้อนสถานีโทรทัศน์ของ กสทช. ในมณฑลยูนนานประเทศจีน และได้เปิดช่องบนเว็บ Youku ในการให้บริการคอนเท้นต์ออนไลน์ โดยใช้คอนเทนต์ที่เรามีอยู่ไปเปิดตลาดสู่ประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม แนวทางการดำเนินธุรกิจของเราในปีนี้ ยังมุ่งมั่นตอบโจทย์การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมมีเดีย-เอ็นเตอร์เทนเมนท์เช่นเดิม ซึ่งจะทำให้เป้าสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน และแบ่งสัดส่วนรายได้จากธุรกิจต่างๆ เป็น ธุรกิจทีวี 50% ธุรกิจอินเตอร์เน็ต-โมบาย 40% ธุรกิจฟิล์ม 3% ธุรกิจเรดิโอ-เพลง-พับลิชชิ่ง 2% อื่นๆ 5 % ตามลำดับ สำหรับงบลงทุนด้านคอนเทนต์ในปีนี้ เราเตรียมไว้ 800 ล้านบาท โดยกระจายการใช้จ่ายตามความเหมาะสมในแต่ละธุรกิจต่อไป" คุณนวมินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO