เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอและจุดบกพร่องของการดำเนินธุรกิจ ที่นำไปสู่ภาพพจน์ของการไม่ซื่อสัตย์ ขาดจริยธรรมและจรรยาบรรณในธุรกิจ ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ยังมีผลกระทบอย่างมากต่อความพยายามแก้ปัญหาธรรมาภิบาลและการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในภาคธุรกิจ จนอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของบริษัทจดทะเบียนไทยทั้งหมดและกลายเป็นตัวฉุดรั้งความก้าวหน้าของประเทศต่อไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ ขอขอบคุณ ชื่นชมและให้กำลังใจต่อการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. ที่รักษามาตรฐานการกำกับดูแลอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD) สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สื่อมวลชนและทุกท่านที่ได้แสดงบทบาทในการขับเคลื่อนต่อเนื่องเพื่อให้มีมาตรการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเหมาะสมทั้งในกรณีนี้และกรณีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการที่ได้เสนอแนะให้นักลงทุนทั้งกองทุนของรัฐและเอกชนรวมถึงรายย่อย ได้พิจารณาทบทวนการลงทุนในบริษัทที่มุ่งแสวงหากำไรโดยขาดธรรมาภิบาล ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ทั้งนี้เพื่อปกป้องส่วนรวมและสร้างมาตรฐานที่ดีร่วมกัน
และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในระยะยาว และเสริมสร้างธรรมาภิบาล ของภาคธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับในสังคมทั้งในระดับประเทศและระดับสากล องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ประเทศไทย ขอตอกย้ำจุดยืนในการสนับสนุนทุกภาคส่วนของสังคมในการต่อสู้กับการทุจริตคดโกง อีกทั้งขอเรียกร้องให้ประชาชนไทย ผู้บริโภคไทย ให้ร่วมเป็นกลไกในการเปลี่ยนสังคมด้วยการไม่ดูดาย หากรู้จักใช้วิจารณญาณในการเลือกสนับสนุนธุรกิจที่รู้จักทั้งรับผิดและรับชอบ เราทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องต่อสู้ ต่อต้านร่วมกัน เพียงหนึ่งหน่วยของสังคมที่ละเลยหน้าที่ก็อาจส่งผลถึงเป้าหมายที่เราได้ร่วมกันกำหนด พลังแห่งความร่วมมือและการยืนหยัดในจุดยืนเท่านั้นจะทำให้เรามีโอกาสมากขึ้นในการเอาชนะการคอร์รัปชั่นของประเทศ