สำหรับการประเมินผลกระทบค่าเอฟทีน้อยลงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ในช่วงปลายปี 2558 เนื่องจาก กกพ. ได้มอบหมายให้ กฟผ. และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเจรจาการเลื่อนกำหนดการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากผู้ผลิตก๊าซฯ แหล่งยาดานาจากแผนเดิมในช่วงวันที่ 1-4 มีนาคม 2559 ซึ่งหากหยุดจ่ายก๊าซฯ ในช่วงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าประมาณ 0.25 สตางค์ต่อหน่วย โดยเลื่อนเป็นช่วงวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงจากกำหนดเดิม เนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุดยาว ตลอดจนราคาน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลลดลงจากที่ประมาณการไว้ค่อนข้างมาก ทำให้ผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่ต้องมีการเดินเครื่องด้วยน้ำมันเตาใกล้เคียงกับราคาก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้กรณีแหล่งก๊าซยาดานาหยุดซ่อมครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อค่าเอฟทีที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์เดิม 0.25 สตางค์ต่อหน่วย เป็น -0.07 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่ง กกพ. จะนำค่าเอฟทีที่ลดลงจากกรณีหยุดซ่อมก๊าซฯ ไปคำนวณค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2559 ให้สะท้อนตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงเพื่อประกาศใช้ต่อไป อย่างไรก็ตาม กกพ. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดพลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการหยุดจ่ายก๊าซฯ ด้วยเช่นกัน
- พ.ย. ๒๕๖๗ “กกพ.” ชูมาตรการราคา หนุนภาคธุรกิจลดพีค ลดค่าไฟ
- พ.ย. ๘๖๑๔ กกพ. ตรึงค่าเอฟที ที่ -15.90 สต.ต่อหน่วย ถึง ส.ค. 61
- พ.ย. ๒๕๖๗ กกพ. ตรึงค่าเอฟทีถึง เม.ย. 61