บทโทรทัศน์ ปราณประมูล
ผู้ผลิต บริษัท ฮู แอนด์ ฮู จำกัด
ผู้จัด คุณวรายุฑ มิลินทจินดา
ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่ม พุธที่ 2 มีค. 2559
แพรขาว หญิงสาวที่มีลูกติดคือชมพู ต้องออกมาจากคฤหาสน์ของคุณนายแถบทิพย์ เมื่อพัสกร สามีของเธอคว้าดิว สาวนั่งดริ้ง ในคาราโอเกะมาทำเมีย และหอบหิ้วลูกน้อยมาอีกหนึ่งคน อ้างว่าเป็นลูกของพัสกร แพรขาวจึงไปเช่าบ้านของยายเกสร มี ป้าสมพร และนลินอยู่ด้วย ถึงแม้เขมิกา พี่สาวของพัสกร จะยื่นข้อเสนอให้แพรขาวเอาชมพูไปอยู่ที่คอนโด แล้วจะเป็นคนส่งเสียให้ชมพูเรียนหนังสือ แต่แพรขาวก็ไม่ยอม พัสกรจะเอาลูกกลับมาอยู่กับตนให้ได้ ถึงขนาดตามไปอาละวาดกับแพรขาวยื้อแย่งตัวชมพู ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน แต่ก็ไม่สำเร็จ เขมิกาให้สาโรจน์ ทนายความประจำบริษัทไปช่วยแพรขาวไว้ เพราะสาโรจน์ให้เหตุผลว่าแพรขาวมีสิทธิ์ในตัวชมพูมากกว่าใคร
หรือแม้กระทั่งวันที่พัสกรมาอาละวาดที่บ้าน ไรวินท์ วิญญาณเจ้าบ้านเจ้าเรือนที่แพรขาวอาศัยอยู่ ก็ออกมาช่วยแพรขาว ปกป้องชมพูอีกแรง จนพัสกรต้องล่าถอยกลับไป ไรวินท์อยู่คอยเป็นเพื่อนเล่นกับชมพูอยู่เสมอ ในยามที่แพรขาวไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว จวบจนกระทั่ง ลลิต นักธุรกิจหนุ่ม มาซื้อที่ฝั่งตรงข้ามบ้านเช่าของแพรขาวเพื่อทำสปา ลลิตเห็นความงามในตัวแพรขาว ลงทุนมาหาแพรขาวถึงบ้านเพื่อชวนไปทำงานที่สปาในช่วงเสาร์อาทิตย์ ไรวินท์ท้วงติง ด้วยความเป็นห่วง ไม่อยากให้แพรขาวไปทำงานกับลลิต แต่แพรขาวไม่ฟัง เพราะเธอกำลังขัดสนเรื่องเงิน ลลิต สะกดจิตแพรขาวตั้งแต่วันแรกที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับแพรขาว โชคดีที่ไรวินท์ให้ชมพู นำกุหลาบขาวของไรวินท์ติดตัวไป เลยทำให้แพรขาวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ....
แพรขาวเห็นไรวินท์ นลินเห็นแพรขาวยืนพูดอยู่คนเดียว จึงเริ่มสงสัย เลยถามแพรขาวว่าคุยอยู่กับใคร แพรขาวจึงบอกกับนลิน ยายเกสร และป้าสมพร ว่าคุยกับไรวินท์ ทุกคนฟังแล้วอึ้ง จนขนหัวแทบลุก สุดท้ายยายเกสร จึงเล่าความจริงให้ฟัง ว่าไรวินท์ ไม่ใช้ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือนอยู่ที่บ้านหลังนี้ หลังจากที่ในสมัยยังสาว ยายเกสร ได้ซื้อเรือนไม้เก่า ๆ ในราคาถูก มาปลูกที่บ้านหลังนี้ แล้วไรวินท์ ก็เป็นวิญญาณ มาช่วยดูแล ปกป้อง คนในครอบครัวไว้หลายครั้ง พร้อมทั้งมาเข้าฝัน ให้ยายเกสร สร้างเรือนให้อยู่ แยกออกไปจากเรือนใหญ่ ซึ่งก็คือศาลเจ้าบ้านเจ้าเรือนจนถึงปัจจุบัน
เมื่อได้ฟังเรื่องราวทุกอย่าง แพรขาวถึงกับอึ้งไป นึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ชมพู ตกลงไปในน้ำตั้งแต่วันแรกที่มาถึง และไรวินท์ช่วยชีวิตชมพูเอาไว้ หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่พัสกรมาอาละวาดที่บ้าน จนไรวินท์ช่วยไว้ได้อีก หลังจากนั้น ไรวินท์ ก็เริ่มเล่าเรื่องอดีตให้กับแพรขาวฟัง ว่าทำไมวิญญาณเขาถึงติดอยู่ที่นี่ เริ่มตั้งแต่ แรมพ่อของเขา ซึ่งเป็นนักเรียนกฎหมาย ไปสอนหนังสือพิเศษให้กับเล็ก น้องชายของวารี แม่ของไรวินท์ วารีตกหลุมรักแรม ตั้งแต่นั้นมา จนแรมเรียนจบกฎหมาย ได้เป็นทนายความที่สำนักกฎหมาย จวบจนคุณย่าของวารีเสียชีวิต ซึ่งวารีดูแลจนถึงวาระสุดท้าย จึงได้มรดกมากมายจากย่า จนสามารถตั้งตัวได้ ทำให้หญิงใหญ่ กับวีณา น้องสาวของวารีไม่พอใจ สุดท้ายทั้งหญิงใหญ่และวีณาก็ออกเรือนไปหมด แล้ววารีก็ได้แต่งงานกับแรมในที่สุด จนมีลูกด้วยกันคือ ไรวินท์ แล้ววีณาก็เลิกกับสามีมาอยู่ที่บ้านของวารี แรมกับวีณามีความสัมพันธ์กันลับ ๆ แล้วแรมก็ยอมรับความจริงกับวารีในที่สุด วารีเจ็บปวดแต่ก็จำทน จนแรมถูกย้ายไปทำงานที่กำแพงเพชร วีณาก็ตามไปอยู่ด้วย นาน ๆ ที แรมกลับมาหาวารีสักครั้ง แต่วารีก็ยังรักแรมเช่นเดิม ความสัมพันธ์ของไรวินท์กับพ่อจึงห่างเหิน มีเพียงคุณหญิงจีบ ผู้เป็นยาย และน้าเล็ก คอยดูแลเอาใจใส่ไรวินท์เสียยิ่งกว่าไข่ในหิน
คุณหญิงจีบยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับวารี รวมทั้งในส่วนของวีณาด้วย เพราะผิดที่วีณา แย่งสามีของวารีไป ต่อมาไรวินท์เริ่มโตเป็นหนุ่ม เล็กก็เสียชีวิตลง เขายกสมบัติทั้งหมดให้กับไรวินท์เพียงผู้เดียว รวมทั้งเรือนใหญ่ด้วย แรมยังคงใช้ชีวิตอยู่กับวีณาที่กำแพงเพชร แต่หน้าที่การงานไม่ได้เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร เพราะวีณายังทำตัวเป็นคุณนาย ดูถูกคนจน ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานหรือชาวบ้านได้สักคน สุดท้ายวีณาทนความเงียบเหงาอยู่ต่างจังหวัดไม่ไหว จึงให้แรมย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ แต่ทำเรื่องยื่นไปเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายแรมจึงลาออกจากราชการ กลับมาทำงานที่สำนักงานทนายความที่กรุงเทพฯแทน แรมกลับมาที่บ้าน วารีดีใจมาก แต่ไรวินท์กลับมีท่าทีห่างเหิน เพราะเสียใจที่พ่อทิ้งแม่ไป แรมขอกลับมาอยู่เรือนใหญ่พร้อมกับวีณา แต่ไรวินท์ไม่ยอม เพราะตอนนี้เขาถือสิทธิ์ขาดในเรือนใหญ่ที่เล็กยกให้ แรมโกรธตรงเข้าทำร้ายไรวินท์ วารีเข้าช่วยจึงได้รับบาดเจ็บ ไรวินท์โกรธพ่อ สงสารแม่จับใจ ยื่นคำขาดให้พ่อกลับมาอยู่ได้เพียงคนเดียว ไม่นับญาติกับวารีอีก แรมกลับไปด้วยความแค้น เงินทองที่ได้จากการทำงานก็ต้องไปเช่าบ้าน จ่ายค่าเลี้ยงดู ค่าแต่งตัวให้กับวีณา จนสุดท้ายวีณาทนไม่ไหวไปมีสามีใหม่ ทิ้งให้แรมอยู่ลำพัง เจ้าของสำนักงานทนายความก็เสียชีวิตลง แรมเลยกลายเป็นคนตกงานตอนใกล้เกษียณ ติดเหล้า ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างน่าเวทนา
ไรวินท์ขายเรือนหลังใหญ่ที่เล็กยกให้ แล้วตนเอง กลับมาอยู่เรือนเล็กกับแม่ ไรวินท์เรียนจบรัฐศาสตร์ และเข้ารับราชการที่กระทรวงมหาดไทย ท่านเจ้าคุณที่ซื้อเรือนไป ย้ายเข้ามาอยู่ เขามีลูกสาวสามคน สองคนแรกออกเรือนไป เหลือเพียงสีนวล ลูกสาวคนสุดท้อง วารีแม่ของไรวินทร์ อยากให้ไรวินท์แต่งงานกับสีนวล ผู้หญิงที่พร้อมทุกอย่าง ไรวินท์ตามใจแม่เพราะไม่อยากให้เสียใจ ตกลงใจแต่งงานกับสีนวลในที่สุด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รัก ป้าของวารีเล่าให้ฟัง ว่า วีณากลายเป็นง่อย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ น่าเวทนายิ่งนัก ไรวินท์ แอบไปหาพ่อ เห็นสภาพพ่อก็ทนไม่ได้ แอบส่งเสีย หาที่พักให้ใหม่ สร้างความสุขใจให้กับแรมมาก แรมเตือนสติไรวินท์ ว่าแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก อาจทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมา
ไรวินท์ยังคงเล่าถึงอดีตต่อไปเรื่องที่เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงถึง 3 คนด้วยกันก่อนที่จะมาแต่งงานกับสีนวล เริ่มตั้งแต่บัวน้อย สาววัยรุ่นร้านขายข้าวแกงที่ตกหลุมรักไรวินท์ จนเขาพาไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันลับ ๆ และไรวินท์ยังให้บัวน้อยดูแลพ่อของตนเองด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างแรมและไรวินท์ จึงเริ่มดีขึ้น ส่วน รำไพ น้องสาวของสนอง เพื่อนรักของไรวินท์ ที่มีปัญหากับพี่สะใภ้ จนต้องหอบน้องชายอีกสองคนระเหเร่ร่อนออกมาจากบ้าน ไรวินท์จึงช่วยเหลือ และอยู่กินกับรำไพด้วยอีกคน และคนสุดท้าย สุดสวาท ลูกสาวของหลวงพิทักษ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ในกรมปลัดมหาดไทย คนนี้ถึงแม้ไรวินท์จะไม่ได้รักนัก แต่ด้วยความมีหน้ามีตาทางสังคม และไรวินท์เกรงจะมีผลกระทบเรื่องหน้าที่การงาน เขาจึงคบหากับสุดสวาทด้วยอีกคน แพรขาวไม่ชอบใจที่ไรวินท์ ทำตัวเจ้าชู้ จึงต่อว่าเขาอยู่หลายครั้ง
ไรวินท์ได้พบกับมาลาตี และหลงใหลเธอมาก จนไม่ได้มาดูแลบัวน้อย สุดท้าย บัวน้อย จึงแต่งงานไปกับคนอื่น ทิ้งให้แรม อยู่บ้านเช่าเพียงลำพัง ไรวินท์ส่งตัวแรมไปโรงพยาบาล โดยให้รำไพมาเฝ้าไข้แทน วารีมาเยี่ยมไข้แรม จึงได้พบกับรำไพ รู้ว่ารำไพเป็นเมียน้อยของไรวินท์ วารีพูดให้รำไพคิด ว่าอย่าทำผิดต่อลูกเมียของไรวินท์ ที่ตอนนี้ สีนวล กำลังตั้งท้องได้5เดือนแล้ว สีนวลเองก็เสียใจจนบอกไม่ถูก วารีพูดอโหสิกรรมให้กับแรมในทุกสิ่งที่ผ่านมา แล้วแรมก็เสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น รำไพตัดใจจากไรวินท์ในที่สุด เขียนจดหมายลาให้ไรวินท์ แล้วจากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
เขมิกา สงสัยว่าลูกของดิว จะไม่ใช่ของพัสกร จึงหาวิธีจะตรวจดีเอ็นเอเด็ก ดิวรีบเอาลูกหนีไปอยู่กับสามี ทำให้พัสกรว้าวุ่นใจมาก แต่ดิวทนความลำบากไม่ไหว เพราะ ไม่มีเงินทองใช้ เลยกลับมาติดต่อพัสกร พอดีลูกป่วย เลยต้องให้พัสกรพาไปโรงพยาบาล แถบทิพย์ เขมินี สาโรจน์ดีใจมาก เพราะจะได้พิสูจน์ดีเอ็นเอของเด็กไปด้วย ผลพิสูจน์ปรากฏว่า ลูกของดิว ไม่ได้เกิดกับพัสกร แถบทิพย์เสียใจมาก ดิวก็รีบพาลูกหนีไป กลัวความผิด ส่วนลลิต ก็ไปติดต่องานต่างประเทศ ให้มาตา ดูแลกิจการสปาแทน พนักงานสาว ๆ ถูกไล่ออก แพรขาวเริ่มหนักใจ พอดีสาโรจน์ยื่นข้อเสนอ เรื่องงานใหม่ เงินเดือนงาม ทำเฉพาะเสาร์ อาทิตย์ให้กับแพรขาว เธอจึงตัดสินใจออกจากลลิตสปา
สีนวลเจ็บท้อง วารีว้าวุ่นใจ ไม่มีรถพาไปโรงพยาบาล จึงให้เด็กรับใช้ ไปตามหมอตำแยแถวบ้านมาช่วยทำคลอดให้ สีนวลคลอดลูกสาว ปลอดภัยดีทั้งแม่และลูก ไรวินท์เริ่มรักลูกสาวมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ใยดีกับสีนวลนักก็ตาม สีนวลแอบร้องไห้เสียใจอยู่บ่อย ๆ แล้วคดีความเรื่องพินัยกรรมก็ตัดสิน สุดสวาทเป็นฝ่ายชนะ เพราะหลักฐานยืนยันว่า พินัยกรรมของมาลาตีเป็นตัวปลอม สุดสวาทได้ทรัพย์สินทั้งหมดไป มาลาตี บีบน้ำตากับไรวินท์ จนเขาใจอ่อน แล้วทั้งสองก็มีความสัมพันธ์กัน สีนวลสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนไปของไรวินท์ เริ่มระแวง เคียดแค้นไรวินท์มากขึ้นทุกวัน ที่ไม่ใยดีตน
ลลิตพยายามจะปลุกปล้ำแพรขาว แต่ต๊อกช่วยเอาไว้จนถูกยิงตาย พอดีมาตาเข้ามา แพรขาวเลยหนีกลับบ้านไป ไรวินท์เป็นห่วงแพรขาวมาก นลิน พาแพรขาวไปแจ้งความ ลลิตกับมาตาตามไปที่โรงพัก หาว่าแพรขาวเข้าไปขโมยของ สาโรจน์มาช่วยแพรขาวอีกแรง ด้วยความอ่อนล้าหมดแรง ทำให้แพรขาวหมดสติไป สาโรจน์นำตัวแพรขาวส่งโรงพยาบาล รุ่งขึ้นเมื่อแพรขาวอาการดีขึ้น จึงไปรับชมพูพร้อมกับสาโรจน์ พบ พัสกรที่จับตัวดิวขังไว้ เขมินี พยายามจะช่วยดิว ออกมา แต่พัสกรมีปืน แพรขาวตกใจจนแทบเป็นลม โชคดีที่สาโรจน์ช่วยไว้ แล้วปืนในมือพัสกรก็ตกลงพื้น ดิวหยิบขึ้นได้ ยิงเข้าใส่พัสกรเข้ากลางอก พัสกรเสียชีวิตในที่สุด แถบทิพย์เสียใจจนแทบไม่ได้สติ สาโรจน์กับแพรขาวต้องเป็นธุระจัดงานเรื่องงานศพให้ ในขณะที่เขมินีต้องอยู่เป็นเพื่อนแถบทิพย์ วิญญาณของพัสกรอาละวาดจนคนในบ้านอยู่กันแทบไม่ได้ ต้องไปอยู่ที่คอนโดเขมินีด้วยกันทั้งหมด รวมถึงแพรขาวกับชมพูด้วย แพรขาวไม่ได้กลับไปที่บ้านเช่านานนับเดือน ทำให้ไรวินท์เหงาหงอยมาก
ไรวินท์ดีใจมาก เมื่อแพรขาวกลับมาที่บ้านเช่าอีกครั้ง เขาเล่าเรื่องราวในอดีตให้แพรขาวได้ฟัง สีนวลยังคงดูแลวารีและเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง ไรวินท์ไม่ได้มาสนใจใยดีเธอ จนก้าวเข้าสู่ยุคสงคราม ไรวินท์ให้วารี สีนวลและลูกไปอยู่ที่อยุธยา ส่วนตนเองไปเช่าบ้านที่เมืองนนท์อยู่กับมาลาตี สีนวลเสียใจมากที่จะไม่ได้เห็นหน้าไรวินท์อีก จนกระทั่งลูกของสีนวลเริ่มโต วารีก็ต้องมาตายด้วยโรคท้องร่วงที่กำลังระบาด ไรวินท์กลับไปงานศพแม่ แล้วรุ่งขึ้น ลูกสาวก็มาตกน้ำตายอีก สีนวลเสียใจแทบคลั่ง ไรวินท์ยังไม่มีที่ท่าใยดีกับสีนวลเช่นเดิม สีนวลขอติดเรือไรวินท์กลับไปที่เมืองนนท์ จึงได้พบกับมาลาตี รู้ความจริงว่าไรวินท์มีมาลาตีอยู่ตลอดเวลา สีนวล กลับไปอยู่ที่ตึกใหญ่ ไรวินท์ขอแยกทางกับสีนวล ยกทั้งตึกใหญ่ และเรือนเล็กที่ไรวินท์ เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กให้กับสีนวล สีนวลบอกจะรักษาสมบัติทุกชิ้น เก็บไว้ให้ไรวินท์ รอวันที่เขากลับมา ดังคำสั่งเสียของวารี ที่บอกไม่ให้สีนวลทอดทิ้งไรวินท์
มาลาตีเสียใจไม่น้อยที่ไรวินท์ ไม่ได้เอาสมบัติติดตัวออกมาจากบ้านเลย ซ้ำร้ายไรวินท์ยังจับได้อีกว่า มาลาตีปลอมลายมือของพ่อเรื่องพินัยกรรม เรื่องการยกสมบัติให้ ไรวินท์เสียใจมากที่ถูกหลอกมาตลอด ในงานศพของประสม แม่ของสุดสวาท ไรวินท์ก็ไปด้วย สุดสวาทไล่ให้ไรวินท์ออกจากงานไปอย่างไม่ใยดี โทษที่เข้าข้างคนผิดอย่างมาลาตี และใช้ชีวิตอยู่กันอย่างผัวเมียออกนอกหน้า ทั้ง ๆ ที่ไรวินท์ก็มีครอบครัวแล้ว ทำให้ไรวินท์ได้อายมาก ซ้ำร้ายมาลาตี ยังปลอมลายมือว่าเป็นไรวินท์ เขียนจดหมายไปขอเงินกับสีนวลตลอดเวลา จนสีนวลต้องขายข้าวของในบ้าน เอาเงินให้คนของมาลาตีไป โดยไม่รู้ว่าโดนหลอก สุดท้ายไรวินท์จึงจับได้ว่า มาลาตีปลอมพินัยกรรมของคุณพ่อจริง ๆ แต่ด้วยความหลงใหล ทำให้ไรวินท์อภัยให้มาลาตีทุกอย่าง ป้าใหญ่ไปเยี่ยมสีนวลที่กำลังเจ็บหนัก จึงเขียนจดหมายให้ไรวินท์ไปเยี่ยม แต่พอดีเขาติดราชการ มาลาตีจึงไม่ยอมให้ไปเยี่ยม ศรีนวลรอคอยการกลับมาของไรวินท์ ด้วยการใช้มีดกรีดที่ข้างเสาเรือนนับวันรอเขาทุกคืน จนสุดท้ายเธอก็ตรอมใจตาย เพ้อหาไรวินท์จนนาทีสุดท้ายของชีวิต สีนวลยกบ้านให้ไรวินท์ โดยฝากกุญแจไว้กับป้าใหญ่ ไรวินท์กลับไปที่บ้านหลังนั้น เขาไม่เห็นทรัพย์สินใด ๆ หลงเหลือ มีเพียงจดหมายขอเงินที่ลงชื่อว่าเป็นของเขา ซึ่งแท้ที่จริงเป็นลายมือของมาลาตีนั่นเอง ไรวินท์เศร้าและเสียใจเป็นที่สุด รู้สึกถึงความผิด และความโง่เขลาของตัวเอง ที่หลงรักมาลาตีจนไม่ลืมหูลืมตา และไม่ได้มาดูใจสีนวลเลยจนนาทีสุดท้าย
ไรวินท์แค้นใจมาลาตีเป็นที่สุด กลับไปดูหีบใส่ของ จึงพบแหวนของแม่ไรวินท์อยู่กับมาลาตี เขาจึงยิ่งมั่นใจ ว่ามาลาตีจะต้องไปเอาสมบัติจากสีนวลมาอย่างแน่นอน มาลาตีสุดจะแก้ตัว เพราะไรวินท์ถือจดหมาย ลายมือของเธอมายืนยัน ไรวินท์ให้มาลาตีสารภาพผิดมาทั้งหมด และขอเลิกกับมาลาตีในที่สุด มาลาตียังไม่หยุดแค่นั้น ยังปลอมลายมือไรวินท์ ไปกู้หนี้ยืมสิน จนเจ้าหนี้มาเอาผิดกับไรวินท์ เขากลัวจะเสียประวัติการทำงาน จึงต้องลาออก นำเงินมาใช้หนี้ โดยที่เขาไม่ได้ก่อ ไรวินท์กลับมาอยู่ที่บ้านของสีนวล ส่วนมาลาตี ก็มีสามีใหม่ ถูกปอกลอกจนหมดเนื้อหมดตัว และผูกคอตายในที่สุด
ไรวินท์ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างน่าเวทนา มีเพียงเงินที่เขาเอาบ้านไปจำนองไว้กับป้าใหญ่ ไว้เลี้ยงดูตนเอง อดมื้อกินมื้อ มีเพียงป้าใหญ่ ที่คอยส่งข้าว ส่งน้ำมาให้ แถมยังป่วยกระเสาะกระแสะอีก ไรวินท์เห็นวิญญาณของลูก และสีนวลมาหาเขา สีนวลบอกจะรอคอยวันที่จะได้มาอยู่ด้วยกันกับไรวินท์ ไม่ว่าจะนานเพียงใด ด้วยความตกใจ ไรวินท์จึงวิ่งหนีตกบันไดลงมาเสียชีวิตอยู่ที่เรือนนั้นเอง แพรขาวได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างจากไรวินท์แล้วก็รู้สึกเศร้าใจไปด้วย ไรวินท์ยอมรับว่าเขาเสียใจที่ทำผิดต่อสีนวล แต่ยังไงเสีย เขาก็ไม่ได้รักสีนวล และไม่มีวันรัก วิญญาณของสีนวลที่อยู่บนชั้น 2 ของ เรือนหลังเล็ก ยายเกสร ได้แต่เจ็บใจและบอกจะไม่มีวันปรากฏวิญญาณให้ไรวินท์เห็น เพราะกลัวไรวินท์จะหนีเธอไปอีก สีนวลขอเฝ้ามองไรวินท์อย่างนี้ตลอดไป
ลลิตหาทางแก้แค้นแพรขาว จึงไปที่บ้านแพรขาวพร้อมกับมาตา มาตาเป็นคนเอาน้ำมันไปราดบริเวณบ้าน แต่เห็นวิญญาณของสีนวลยืนอยู่ จึงตกใจวิ่งหนีไปก่อน ส่วนลลิต ไปที่ห้องขจงแพรขาว ไรวินท์ จึงรีบมาปลุกแพรขาวไปหนีไปที่เรือนยายเกสร รอดไปได้หวุดหวิด ลลิตเจอเข้ากับวิญญาณของต๊อก ต๊อกสิงร่างลลิต มาตาจึงเห็นลลิตเป็นต๊อก ใช้ไม้พายตีจนลลิตตาย ส่วนตัวเอง หนีจนพลาดตกตึกตายตามไปอีกคน วิญญาณของพัสกรยังคงอาละวาด จะเอาแม่ไปอยู่ด้วย จนแถบทิพย์ประสาทเสียแทบไม่ได้นอน แพรขาวต้องนำตัวชมพู และตนเอง ไปนอนเป็นเพื่อนแถบทิพย์ ที่คอนโดเขมินีอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายยายเกสรก็เสียชีวิต ป้าสมพร ตัดสินใจขายที่ และรื้อบ้านทิ้ง วิญญาณของต๊อกมาบอกกับแพรขาวว่า วิญญาณของสีนวลอยู่ที่ชั้น 2 ของเรือนหลังเล็กอีกหลัง ในบ้านของยายเกสร แพรขาวจึงไปหาสีนวล เพื่อเกลี้ยกล่อมให้สีนวลปล่อยไรวินท์ไป เพื่อไรวินท์จะได้ไปเกิด ไม่ต้องทนทุกข์อยู่อย่างโดดเดี่ยว สีนวลยิ่งโกรธ เมื่อเห็นว่าแพรขาวมีใจผูกพันกับไรวินท์ จึงให้วิญญาณร้าย มาทำร้ายแพรขาว ไรวินท์คุกเข่าขอร้องไม่ให้สีนวลทำร้ายแพรขาว สุดท้ายไรวินท์ ยอมสละวิญญาณตนเอง ไปเป็นวิญญาณร้ายแทน เพื่อช่วยชีวิตแพรขาว ความตั้งใจดี ยอมเสียสละจิตวิญญาณเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้วิญญาณของไรวินท์หลุดพ้นจากบ้านแห่งนี้ สีนวลจึงกลายเป็นวิญญาณที่โดดเดี่ยว ไม่ได้มองเห็นไรวินท์อีกต่อไป
วิญญาณของไรวินท์ ตามมาขอบคุณที่แพรขาวทำให้เธอหลุดพ้นจากทุกสิ่ง ซ้ำยังเกลี้ยกล่อมให้พัสกรปล่อยวาง แล้วไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องวนเวียนอยู่กับอดีตอีก พัสกรจึงจากไปอย่างสงบ บ้านไม้ของยายเกสรถูกรื้อ วิญญาณของสีนวลไม่มีที่อยู่ แพรขาวให้สาโรจน์เป็นธุระ นำไม้ไปสร้างศาลาถวายวัด เป็นศาลาคู่ ชื่อว่าศาลาไรวินท์ และศาลาสีนวล วิญญาณของไรวินท์พาสีนวลมาอยู่ที่ศาลา ทั้งสองต่างอโหสิให้กัน ไม่มีกรรมใดผูกพันกันอีก ไรวินท์มาพบแพรขาวในฝัน เพื่อบอกลา และให้แพรขาวลืมเรื่องราวที่เขาและแพรขาวได้พบกัน เพื่อที่จะได้หมดความผูกพัน และได้แต่งงานกับสาโรจน์ ผู้ชายที่รักมั่นในตัวแพรขาว ตราบใดที่ไม่มีใครพูดถึงไรวินท์ แพรขาวจะไม่สามารถจดจำเรื่องราวระหว่างเขาและแพรขาวได้อีก วิญญาณของสีนวลก็มาขอบคุณแพรขาวเช่นกัน ที่ทำให้เธอมีที่อยู่ ไม่ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อน
แพรขาวลืมเรื่องราวระหว่างเธอและไรวินท์อย่างหมดสิ้น เธอแต่งงานกับสาโรจน์ในเวลาต่อมา ชมพูไปเรียนต่อเมืองนอก จนเป็นสาว และแต่งงานมีครอบครัว พร้อมกับลูกแฝด สาโรจน์เสียชีวิตในเวลาต่อมา ชมพูจึงพาครอบครัวกลัวมาอยู่เมืองไทย เธอซื้อเพลงมาฝากแพรขาว ซึ่งเป็นเสียงเปียโนที่ไรวินท์เคยเล่นให้ฟัง ชมพูบอกคิดถึงคุณลุงไรวินท์ ทำให้อดีตที่แพรขาวเคยลืมเลือน กลับมาอย่างสมบูรณ์ เธอร้องไห้คิดถึงไรวินท์ คืนนั้น แพรขาวเสียชีวิต และได้พบกับไรวินท์อีกครั้ง ทั้งสองต่างมีความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน ได้พบและอยู่ด้วยกันในที่สุด
รายชื่อนักแสดง
เจษฎาภรณ์ ผลดี รับบท ไรวินท์(อดีต)
ศรีริต้า เจนเซ่น รับบท แพรขาว
รินลณี ศรีเพ็ญ รับบท สีนวล(อดีต)
พศุตม์ บานแย้ม รับบท สาโรจน์
ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง รับบท พัสกร
กุณณัฎฐ์ กุลปรียาวัฒน์ รับบทw เขมินี
ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ รับบท ดิว
เจสัน ยัง รับบท ลลิต
ศุภักษร ไชยมงคล รับบท มาตา
ณัฎฐพัชร วิพัธครตระกูล รับบท มาลาตี(อดีต)
ดุสิตา อนุชิตชาญชัย รับบท สุดสวาท(อดีต)
ปฎิญาฉัตต์ ไพรหิรัญ รับบท รำไพ(อดีต)
รัดเกล้า แจ่มอุลิตรัตน์ รับบท บัวน้อย(อดีต)
ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท คุณนายวารี(อดีต)
สุกล ศศิจุลกะ รับบท แรม(อดีต)
รมิดา ประภาสโนบล รับบท อาน้อย(อดีต)
ไปรมา รัชตะ รับบท มะลิ (อดีต)
มาตรา ไพรหิรัญ รับบท หลวงไผท(อดีต)
ปาริฉัตร สัชฌุกร รับบท ประสม(อดีต)
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท คุณนายแถบทิพย์
ด.ญ.จิรดา โมแรน รับบท ชมพู
นันทวัน เมฆใหญ่ รับบท ยายเกสร
ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์ รับบท ป้าสมพร
ณัฐนี สิทธิสมาน รับบท ประไพ
วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ รับบท ปี
ณัฐฐิรา จิวระโมไนย์กุล รับบท นลิน
กันด์ดนย์ อะคะซาน รับบท ป๊อป
ศศิมา สุรทรัพย์มณี รับบท จารุวรรณ
สุรินทร์ คารวุฒิม์ รับบท ต๊อก
บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ รับบท เจ๊ยอด
ปรารถนา สัชฌุกร รับบท หวานหวาน
อรัญญา ประทุมทอง รับบท เนย
เดี่ยว หมากเตะ รับบท เท็น
สุกัญญา นาคสนธิ์ รับบท ป้าใหญ่(อดีต)
น้ำเงิน บุญหนัก รับบท คุณหญิงจีบ
นฤมล นิลวรรณ รับบท แม่ชีบุญมา
วุฒิ คงคาเขตร์ รับบท ลุงแคล้ว
เฉลิมศักดิ์ เทียนมณี รับบท ลุงผาด
คุณากร เกิดพันธ์ รับบท อาเผดิม
อมรเทพ ศุภพร รับบท เสมียนชาย
อพิชญา ป้านแก้ว รับบท อุ่ม
ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกูร รับบท อาเล็ก(อดีต)
นินท์วริศ กิตติชัยวรางค์กูร รับบท ไรวินท์ 16
เด็กหญิงเปมิกา วรรณสนธยา รับบท ยัยหนู(ลูกไรวินท์กับสีนวล)
ด.ช.ธิติวัฒน์ ลิ้มพิมพ์เพราะ รับบท ไรวินท์ 6 ขวบ
ด.ช.ภูชิ ทองดี รับบท อาเล็กตอนเด็ก(อดีต)
จักริน โมแรน รับบท ลูกชายชมพู