น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบหน้าในเดือนมี.ค. เนื่องจากมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และการดีดตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีความคืบหน้าจากความร่วมมือของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการช่วยกันรักษาเสถียรภาพราคา
ปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภาคเอกชนชะลอการลงทุนซึ่งเห็นได้จากดัชนีความความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2559 อยู่ที่ระดับ 86.3 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนจากระดับ 87.5 ในเดือนธันวาคม 2558 รวมทั้งการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศหลัก เช่น สหรัฐ กลุ่มประเทศยูโรโซน ญี่ปุ่น จีนมีความแตกต่างกัน
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่าภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มีนาคมนี้ รวมถึงแรงซื้อดักงบและปันผลปี 2558 ที่ทยอยประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงผิดหวังผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ตรึงการผลิตเป็นตัวถ่วงดัชนี
ดังนั้นคาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,270 - 1,315 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มที่ปัจจัยบวกและซื้อสะสมหุ้นที่งบการเงินเติบโตดี ได้แก่ FSMART, TVT, BEAUTY, EA, SYNEX, SPALI, ORI และ UBIS กลุ่มหุ้นที่มีปันผลสูง แนะนำINTUCH, ADVANC และ KTB หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากช่วง High season ของการท่องเที่ยวและต้นทุนน้ำมันปรับตัวลงแนะนำAOT, BA และAAV
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มย่อตัวลงหลังปรับขึ้นมาแรงในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า จากแรงขายทำกำไรหลังราคาทองปรับขึ้นมามาก บวกราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เผยว่ากลุ่มโอเปกพร้อมให้ความร่วมมือในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันร่วมกับกลุ่มผู้ส่งออกรายอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่รัสเซียและซาอุดิอาระเบียหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดน้ำมัน เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นจากการที่นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารหลังดอยช์แบงก์จะเข้าซื้อคืนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์ของธนาคารจำนวนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำและกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมในวันที่ 10 มีนาคม และเรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆในยูโรโซนดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศด้วยเช่นกันส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงและทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิค ราคาทองปรับลงมาทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ไม่ลงมาต่ำกว่าแสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวรับ บวกกับการสร้างแท่งเทียน POSITIVE HARAMI หลังลงมาจบรูปแบบแท่งเทียนขาลงTHREE BLACK CANDLESTICKS เป็นสัญญาณฟื้นตัว อย่างไรก็ตามค่าสัญญาณ RSI ที่อยู่ในช่วงปรับลดภาวะ OVER BOUGHTเป็นแรงกดดัน ทำให้ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นในลักษณะค่อยๆแกว่งตัวขึ้นมากกว่าปรับขึ้นแรง โดยให้แนวรับ 1,160 -1,155เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,250-1,255 เหรียญต่อทรอยออนซ์