"ปัจจุบันบริษัทอินฟินิทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการ แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง คอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่โครงการกว่า 5ไร่ เป็นอาคาร 4 ชั้น พื้นที่รวม 1 หมื่นตร.ม. งบลงทุนมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ได้ทำการขายพื้นที่ไปแล้วประมาณ50% โดยจะเริ่มเปิดตัวในช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งยังมีส่วนของไนท์มาร์เก็ต แหล่งรวมของกิน ของใช้ แฟชั่นสุดฮิต ที่จะมาเปิดเป็นแลนด์มาร์คบนถนนสรงประภาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งลูกบ้านและผู้คนในชุมชนบริเวณใกล้เคียงโครงการ พร้อมจะผลักดันให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งและเป็นแหล่งพักผ่อนที่ดีที่สุดในย่านดอนเมือง"กรวิกา กล่าว
คุณกรวิกา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่โครงการโซนรัชดา 18 ก็ได้มีการดำเนินการพัฒนาจากเดิมที่เป็นสนามฟุตบอลแฮปปี้ รัชดา 18 ที่ให้บริการเฉพาะในด้านของการเช่าสนาม ก็กำลังเดินหน้าพัฒนาให้กลายเป็นสปอร์ตคลับแบบครบวงจร โดยใช้ชื่อว่า แฮปปี้ สปอร์ตคลับ ซึ่งมีกิจกรรมกีฬาให้ลูกค้าได้เลือกสรรมากมาย ได้แก่ ฟุตบอล โยคะ ฟิตเนส และมวยไทย เป็นต้น และพร้อมจะทำการขยาย ห้องจัดเลี้ยงเพื่อรองรับลูกค้าองค์กรจาก 150 คน เป็น 250 คน ซึ่งคาดว่าในส่วนนี้จะใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท" คุณกรวิกา กล่าว
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงต้นปีคือ โปรโมชั่น BIG SURPRISE BIG ANGPAO จองทุกโครงการในเครืออินฟินิทฯ ลุ้นรับของรางวัล และคูปองมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท โดยเน้นไปที่ 4 โครงการหลัก ได้แก่ แฮปปี้โฮม รามอินทรา 101 แฮปปี้ วิลล์ ดอนเมือง แฮปปี้ คอนโด ดอนเมือง เดอะ เทอมินอล และแฮปปี้ คอนโด ลาดพร้าว101 ซึ่งคาดว่าหลังจากการอัดแคมเปญในช่วงต้นปีนี้จะทำให้รายได้ทะลุขึ้นมาถึงกว่า 500 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน และสำหรับหลังจากหมดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯไป ก็ยังมีโปรโมชั่นที่บริษัทอินฟินิทฯ ได้วางไว้ให้กับลูกค้าในอนาคตแล้ว จะเป็นอย่างไรก็คงต้องรอติดตาม ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ถูกใจสำหรับลูกค้าแน่นอน และโดยเฉพาะลูกค้าผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้พื้นที่โครงการพลาดไม่ได้เลย ติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดโรงการได้ที่ www.infinite.co.th หรือโทร. 02-789-1900
"ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 นี้ บริษัทอินฟินิทฯ ได้ตั้งเป้าสำหรับการขยายเฟส 3 ของโครงการแฮปปี้ โฮม รามอินทรา 101 เพิ่มเติม เป็นทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 7.5 เมตร เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าที่ยังมีความต้องการหาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตรงบริเวณนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาการดำเนินการขายเฟส 1 และเฟส 2 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ด้วยความเป็นทำเลดี โครงการใกล้ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์เพียง 500 เมตร และสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู(โครงการในอนาคต) ประกอบกับรูปแบบของบ้านเหมาะทั้งสำหรับอยู่อาศัยเป็นครอบครัว และเหมาะสำหรับทำเป็นโฮมออฟฟิศ จึงทำให้คาดว่ายังมีกำลังซื้อและมีแรงความสนใจในพื้นที่โซนนี้อยู่ นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้ายอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้อยู่ที่ประมาณ 2,600 ล้านบาท" กรวิกา กล่าวสรุป