มร. ฮิโรยูกิ ซูซูกิ (Mr.Hiroyuki Suzuki) ประธานบริษัท โตโต้(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โตโต้ มองเห็นศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศไทยยังชะลอตัวอยู่ เนื่องจากหลายปัจจัย แต่เชื่อว่าด้วยศักยภาพของประเทศไทยการเติบโตของตลาดน่าจะเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคอนโดหรูย่านซีบีดีที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ซึ่งโตโต้ได้ให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มนี้เป็นพิเศษ โดยล่าสุดได้รับความไว้วางใจจากโครงการหรู เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของโตโต้ 3 โครงการใหญ่ อาทิ โครงการ Saladaeng One คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ 3 งาน มูลค่าโครงการ 4,700 ล้านบาท ได้เลือกผลิตภัณฑ์ โตโต้ทั้ง สุขภัณฑ์พร้อมฝารองนั่งอัตโนมัติ washlet และอ่างล้างหน้า ทั้งโครงการ และ โครงการเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่ตั้งที่สวยงามมีมนต์เสน่ห์ บนที่ดินผืนงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในโครงการไอคอนสยาม ได้เลือกสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ NEOREST ของโตโต้ เพื่อติดตั้งภายในโครงการทั้งหมด 146 ยูนิต จำนวน 496 ชุด โครงการ NUSA SRIRACHA คอนโดหรูริมชายหาดติดถนนสุขุมวิท ได้เลือกผลิตภัณฑ์ โตโต้ ทั้ง สุขภัณฑ์พร้อมฝารองนั่งอัตโนมัติ washlet, อ่างล้างหน้า, อ่างอาบน้ำ, ก๊อกน้ำ ฯลฯ ทั้งหมด 1,166 ห้อง ฯลฯ
"การที่โตโต้ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภัณฑ์ที่มีมากว่า 100 ปี และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศญี่ปุ่นถึง70%, การบุกตลาดต่างประเทศอาทิ จีน, อเมริกาและยุโรปได้ จนเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้โตโต้ มองเห็นความสำคัญที่จะกลับมาขยายตลาดในอาเซียนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ตลาดยังสามารถเติบโตได้อีกหลายเท่า อีกทั้งการค้าการลงทุนกับประเทศไทยที่รัฐบาลไทยยังคงให้การสนับสนุนบริษัทข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทโตโต้ความสนใจที่จะขยายการลงทุนที่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และจากการเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีระดับต้นของโลก มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของโตโต้จะได้รับการตอบรับจากตลาดเมืองไทยตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งโตโต้มุ่งหวังที่จะให้ โตโต้ประเทศไทย เป็นแหล่งผลิตสินค้าโตโต้ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนต่อไป"มร. ฮิโรยูกิ ซูซูกิ กล่าว
มร. ฮิโรยูกิ ซูซูกิ กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้โตโต้มีแผนที่จะรุกตลาดเมืองไทยอย่างจริงจัง โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นแรงซื้อจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อาทิ การจัดงานอีเว้น, โปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมกับหน้าร้าน, การปรับปรุงโชว์รูมใหม่ ณ จุดขาย หรือแม้แต่การขยายผู้แทนจำหน่ายเพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อได้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มทีมบริการหลังการขาย และศูนย์โตโต้ ในต่างจังหวัด