นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจสปาแบบครบวงจร เปิดเผยว่า "ผลประกอบการปี 2558 ของ SPA รายได้รวมสุทธิ 543 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวมปี 2557 ที่ 343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 ส่วนกำไรสุทธิ รวมทั้งปี 2558 สูงถึง 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรรวมปี 2557 ที่ 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 220 โดยเน็ตมาร์จิ้นอยู่ที่ร้อยละ 19.97 ของรายได้จากการขายและบริการ ทำให้ภาพรวมของผลประกอบการปี 2558 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในส่วนของรายได้และกำไรสุทธิ นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นอีก 0.05 บาท หลังจากมีการปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.05 บาท"
ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ดีเกินคาดหมายคือ (1) อัตรา Staff Utilization Rate ที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น โดยร้อยละ 75 เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งในปี 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 29.88 ล้านคน (2) การขยายสาขาภายใต้แบรนด์ Let's Relax ของ SPA ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 4 สาขา (3) การขยายสาขาแบบ M&A ผ่านการเทค โอเวอร์บ้านสวน มาสสาจ สปาระดับ 3 ดาว ที่เจาะกลุ่มลูกค้าชาวไทย ซึ่งทำให้ SPA สามารถขยายฐานลูกค้า คนไทยได้กว้างขึ้น (4) การเซ็นสัญญาขายแฟรนไชส์ธุรกิจสปาไปยัง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ส่วนในปี 2559 บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งหรือ 250 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา เพิ่มเติม จำนวน 10 สาขา และอีกครึ่งหนึ่งหรือ 250 ล้านบาทสำหรับเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่อง โดยปีนี้ตั้งเป้า รายได้โตไม่ต่ำกว่า 35%
"นอกจากนี้ หลังการเปิดประชาคมอาเซียน หรือ AEC นั้น บริษัทฯ ได้มีแผนขยายสาขาไปในหัวเมืองหลัก ของประเทศในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ทั้งในประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น กัมพูชา, เวียดนาม, พม่า และลาว และประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2020 ของ SPA ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านธุรกิจสปาของเอเชีย โดยมีตราสินค้าที่เป็นยอมรับของภูมิภาคเอเชีย (Spa Leader of Asia with Regionally Recognized Brand) " นายวิบูลย์ กล่าวเพิ่มเติม