นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาค อาเซียน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา ว่าจากสภาพเศรษฐกิจทั่วไปมีการขยายตัวในอัตราที่ต่ำ และการแข่งขันทางธุรกิจมีความเข้มข้นสูง ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับลดราคาผลิตภัณฑ์สินค้าในกลุ่ม LED ลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ส่งผลให้รายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 2,669 ล้านบาทเติบโตเพียง 2% ลดลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่ามูลค่างานโครงการในภาคเอกชนซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดยังคงเติบโตได้กว่า 10% แต่มูลค่างานโครงการภาครัฐได้ชะลอตัวลง สำหรับมูลค่างานค้าส่งและค้าปลีกนั้นมีอัตราเติบโต 13% ส่วนมูลค่างานส่งออกทรงตัว และในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้เริ่มย้ายโรงงานและคลังสินค้าไปที่แห่งใหม่ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่จ่ายครั้งเดียว และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินและค่าดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็ยังไม่สามารถใช้กำลังผลิตได้เต็มที่ในการเพิ่มรายได้เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสำหรับปีได้รับผลกระทบ
ขณะที่มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 62.7 ล้านบาท ลดลงจากจากปีก่อนหน้า 57% เป็นผลจากกำไรเบื้องต้นจากการขายและให้บริการรวมรายได้อื่นลดลง 6.6 ล้านบาทหรือลดลง 1% เพราะมียอดขายเพิ่มขึ้น 2% และอัตรากำไรเบื้องต้นลดลงจาก 30.5% ในปี 2557 เป็น 29.2% ในปี 2558 ซึ่งเป็นผลจากบริษัทฯ ยังไม่สามารถใช้กำลังผลิตได้เต็มที่เพราะพึ่งย้ายโรงงานไปผลิตในสถานที่ใหม่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 88.8 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 14% เป็นผลจากการปรับเงินเดือนประจำปีและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการสร้างโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ เช่น ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 19.6 ล้านบาท ค่าสวัสดิการช่วยเหลือ พนักงานที่ต้องเดินทางไปทำงานที่โรงงานใหม่เป็นเงิน 11.2 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 20.9 ล้านบาท รวมค่าใช่จ่ายที่จ่ายครั้งเดียวเพราะการย้ายโรงงานและคลังสินค้าไปที่ใหม่เป็นเงินอีก 6 ล้านบาท
"ยอมรับว่ารายได้ปี 58 ทั้งปีเติบโตไม่มาก แต่บริษัทฯ จะมีการจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นต่อเนื่องอย่างที่เคยปฏิบัติมาทุกปี แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ขณะที่เป้าหมายรายได้ปี 59 จะโตได้ 15-20% หลังเตรียมความพร้อมบุคลากร ทีมงาน โครงสร้างองค์กร เพื่อรองรับการเปิด AEC และการขยายตัวของตลาด" นายปกรณ์กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2559 คาดว่ารายได้ของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างน้อย 15-20% จากการปรับตัวเตรียมพร้อมรับมือจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาด LED ตลอดจนการเปิดเสรีของการค้าอาเซียนที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว รวมทั้งบริษัทมีความพร้อมและโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดปทุมธานี สามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่ ในต้นปี 59 นี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการปี 2559 ของ L&E เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ปี 59 จะมาจากงานโครงการ 65 % ค้าส่ง ค้าปลีก 28 % และต่างประเทศ 7% ซึ่งรายได้ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลอด LED และบริษัทฯมีกำลังการผลิตหลอด LED เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดปทุมธานี
นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาเปิดบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนาม หลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ได้ขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศเมียนมาร์ โดยได้เปิดบริษัทย่อยอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ การเปิด Lighting Application Center ที่เมียนมาร์ของ L&E ในครั้งนี้ สอดรับกับการเปิดเขตเสรีทางเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างเป็นทางการแล้ว และนับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของ L&E ในการขยายช่องทางของธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ ไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน จากก่อนหน้านี้บริษัทฯมีสำนักงานตัวแทนที่เวียดนาม ซึ่งถือว่าครอบคลุมในพื้นที่ CLMV