นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2559 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด เพิ่มอีกในอัตรา หุ้นละ 0.10 บาท จำนวน 3,504,053,611 หุ้น ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2558 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นเป็นเงิน 499.14 ล้านบาท
โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อ ปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 16 มีนาคมปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 17 มีนาคม2559 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2559
สำหรับผลประกอบการประจำปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,026.88 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,045.67 ล้านบาท ลดลง 1.82% และในปี 2558 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 16,846.75 ล้านบาท ส่วนในปี 2557 มียอดขายเท่ากับ 14,910.92 ล้านบาท ยอดขายเพิ่มจากปีก่อนเท่ากับ 1,935.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.98% โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากการขายต่างประเทศในปี 2558 เท่ากับ 12,461.68 ล้านบาท โดยเพิ่มจากปี 2557 เท่ากับ 2,778.35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.69% เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น จากการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศจีนทำให้บริษัทขยายฐานลูกค้าในประเทศจีนเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทได้มีการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยในปี 2558 บริษัทสามารถขายไปยังประเทศเกาหลีใต้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศบังคลาเทศ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2559 บริษัทฯจะเน้นการบริหารต้นทุนธุรกิจทุกภาคส่วน เพื่อรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2558 พร้อมตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหินไว้ที่ 11 ล้านตัน ซึ่งบริษัทจะเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า อาทิ จีน , เกาหลีใต้ และอินเดีย และล่าสุดมีลูกค้ารายใหม่จากบังคลาเทศ และฮ่องกง เพิ่มเข้ามา และปีนี้บริษัทได้ยื่นประมูลจำหน่ายถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศใต้หวัน
"ในทุกๆ ปีบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของผลประกอบการแบบ Conservative มาตลอด แต่จะรักษาระดับการเติบโตให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าฐานลูกค้าเก่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังเน้นบริหารต้นทุนในธุรกิจทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ในระยะยาว"นายขจรพงศ์กล่าวในที่สุด