การเติบโตในอินเดียของสายการบินเอทิฮัดปรากฏชัดด้วยสถิติผู้โดยสาร

พุธ ๐๒ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๗:๑๖
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศถึงจำนวนผู้โดยสารตลอดทั้งปีในการเดินทางจากและสู่อินเดียเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 63 กับสายการบินพันธมิตร เจ็ท แอร์เวย์ส ตอกย้ำความแข็งแกร่งในความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนและพันธกรณีของสายการบินที่มีต่อหนึ่งในตลาดการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้

สถิติที่ทั้งสองสายการบินได้ทำการขนส่งผู้โดยสารแล้วรวมเป็นจำนวนกว่า 3.3 ล้านคน ที่เดินทางระหว่างฐานการบินของสายการบินเอทิฮัดที่กรุงอาบู ดาบีและอินเดียในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารจำนวน 2 ล้านคนในช่วง 12 เดือนก่อนหน้านี้

สายการบินเอทิฮัดนั้นได้กลายเป็นสายการบินต่างชาติสายการบินแรกที่ลงทุนในสายการบินของอินเดียภายใต้กฎการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของอินเดีย (Indian Foreign Direct Investment Rules) เมื่อสายการบินเอทิฮัดได้ลงทุนเป็นมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 26.8 หมื่นล้านบาท ในปี พ.ศ. 2556 สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 24 ของสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ส ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดให้บริการ 175 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากและสู่เมืองที่เป็นประตูของอินเดีย 11 แห่ง ซึ่งเครือข่ายการบินรวมกันของทั้งสายการบินเอทิฮัดและเจ็ท แอร์เวย์ส นั้นมอบเที่ยวบินจำนวนกว่า 250 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ระหว่างกรุงอาบู ดาบีและ 15 เมืองทั่วอินเดีย

เมื่อให้บริการร่วมกันทั้งสองสายการบินนั้นถือเป็นผู้นำตลาดในด้านของการเดินทางระหว่างอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในส่วนของตลาดระหว่างประเทศโดยรวมแล้วนั้นมีจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างกันประมาณร้อยละ 20 ของผู้โดยสารทั่วโลกที่เดินทางเข้าสู่และออกจากอินเดีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมการเดินทางทางอากาศที่กำลังเติบโตของประเทศนี้

นอกเหนือจากนั้น เอทิฮัดคาร์โกให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าจำนวน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่เมืองในอินเดีย 4 แห่ง และได้ขนส่งสินค้าประมาณ 120,000 ตันเข้าและออกประเทศในแต่ละปี ถือเป็นจำนวนประมาณร้อยละ 9 ของปริมาณในตลาดต่างประเทศทั้งหมด

ตัวเลขเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญที่สายการบินเอทิฮัดมีต่อตลาดอินเดีย ในฐานะเป็นหนึ่งในแหล่งธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของสายการบิน รวมถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ส อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดีย

ความร่วมมือทวิภาคีที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศนี้เป็นจุดสำคัญที่รัฐบาลทั้งสองได้มีการหารือร่วมกันที่มุมไบและเดลีเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นผลให้มีข้อตกลงมากมายในหลายภาคส่วนที่จะกระตุ้นความความสัมพันธ์ด้านกลยุทธ์และการค้าเศรษฐกิจระหว่างกัน

มีการคาดการณ์ว่าการค้าระหว่างสองประเทศนั้นจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 60 ในอีก 5 ปีข้างหน้าจากระดับปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.14 ล้านล้านบาท ด้วยการลงทุนและการนำเข้า-ส่งออกในหลายภาคส่วน รวมถึงด้านพลังงาน การทหาร การผลิต การบินและอวกาศ สุขภาพ การศึกษา การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้ลงทุนต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 10 และผู้ลงทุนจากแถบอาหรับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย

มร.เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า "ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดียนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่องเนื่องมาจากมิตรภาพมีมานานหลายปีและความยึดมั่นที่มีต่อการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการค้าระหว่างกัน"

"สายการบินเอทิฮัดและเจ็ทแอร์เวย์สให้บริการด้วยจำนวนที่นั่งมากกว่า 44,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ระหว่างกรุงอาบู ดาบีและอินเดีย ทำให้เห็นว่าเราเป็นผู้ที่มีส่วนในการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียอย่างเด่นชัด ซึ่งยังมีโอกาสในการเติบโตต่อไปจากนี้อีกและเรายังมองหาโอกาสอีกมากมายที่มีอยู่ที่จะพัฒนาการปฏิบัติการของเรา"

"การลงทุนของเราในสายการบินเจ็ทแอร์เวย์สนั้นมีจุดหมายที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของอินเดีย ซึ่งก่อนที่จะมีข้อตกลงนี้สายการบินเอทิฮัดได้ขนส่งผู้โดยสารจำนวนเพียงร้อยละ 2 ของการเดินทางระหว่างประเทศเข้าสู่และออกจากอินเดีย เราได้ช่วยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์สได้กลับมาทำกำไรได้ ปัจจุบันสายการบินเจ็ทแอร์เวย์สนั้นเป็นสายการบินหุ้นส่วนพันธมิตรอันดับหนึ่งของเราในด้านรายได้และจำนวนผู้โดยสารที่มีให้กับสายการบินเอทิฮัด และอินเดียก็เป็นประเทศต้นทางที่มีนักเดินทางมากเป็นอันดับหนึ่งของกรุงอาบู ดาบี"

"ฐานการบินของสายการบินเอทิฮัดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบีนั้นให้บริการในฐานะจุดเชื่อมต่อหลักของการเดินทางทางอากาศระหว่างอินเดียและจุดหมายอื่นๆ ของโลก ซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเครื่องได้อย่างสะดวกสบายและมอบทางเลือกของการเดินทางด้วยเที่ยวบินที่มากมายจากทั่วอินเดียมายังกรุงอาบู ดาบีและต่อไปยังที่ต่างๆ"

ตั้งแต่การเริ่มให้บริการเที่ยวบินจากกรุงอาบู ดาบีไปยังอินเดียในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 ด้วยตารางเที่ยวบินประจำสู่มุมไบ สายการบินเอทิฮัดได้มีบทบาทเพิ่มขึ้นทั่วอินเดียอย่างรวดเร็ว โดยได้เพิ่มประตูเชื่อมต่ออีก 10 แห่งและเพิ่มความถี่ในการให้บริการอีกหลายเส้นทาง รวมไปถึงความถี่ 3 เที่ยวบินต่อวันใน 7 เส้นทางบินและตั้งแต่ 1 พฤษภาคม สายการบินฯ จะเริ่มปฏิบัติการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ที่ได้รับรางวัลไปยังมุมไบ

จุดหมายปลายทางอินเดียในปัจจุบันของสายการบินเอทิฮัดจากกรุงอาบู ดาบี ได้แก่ อาเมดาบัด เบงกาลูรู (บังกาลอร์) เชนไน เดลี ไฮเดอราบัด ไจปูร์ โคชิ (โคชิน) โกลกาตา โคซิโคเด (คาลิคัต) มุมไบ และธีรุวนันทปุรัม สายการบินเจ็ทแอร์เวย์สมอบบริการจุดเข้าออกประเทศอินเดียเพิ่มเติมจากปูเน่ ลัคเนา กัว และมังคาลอร์ รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับเที่ยวบินภายในประเทศอีกมากมาย

พันธกรณีของสายการบินเอทิฮัดที่มีต่อประเทศอินเดียสะท้อนให้เห็นได้จากการมีส่วนร่วมกับประชาคมธุรกิจในประเทศ ในปีที่แล้วสายการบินฯ เข้าเป็นสมาชิกก่อตั้งของสภาธุรกิจยูเออี (UAE Business Council) ในอินเดีย วัตถุประสงค์หลักขององค์กรคือการเป็นตัวเร่งการขับเคลื่อนให้ภาคการค้าพาณิชย์ต่าง ๆ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดและส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดีย

มร. โฮแกนยังกล่าวเสริมว่า "อินเดียเป็นตลาดที่สำคัญไม่เพียงแต่สำหรับสายการบินเอทิฮัดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสำหรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เองอีกด้วย ดังนั้นเราจึงเปิดรับโอกาสที่จะเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสภาธุรกิจยูเออีในอินเดีย ซึ่งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับสายการบินเจ็ทแอร์เวย์สนั้นหมายถึงเราทั้งคู่จะได้ขนส่งผู้โดยสารทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดียที่มากขึ้น เรามองไปถึงโอกาสในอนาคตที่จะใช้ความสัมพันธ์นี้สร้างความเข้มแข็งให้สภาธุรกิจยูเออีในอินเดีย"

"ในฐานะสายการบิน เรามีบทบาทสำคัญที่จะอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจและเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนมหาศาลในอินเดียที่มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเรามีความยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของอินเดีย"

นอกเหนือไปจากการลงทุนแล้ว สายการบินเอทิฮัดและสายการบินเจ็ทแอร์เวย์สยังได้เข้าสู่ปีที่สองในข้อตกลงระยะสามปีในการเป็นสายการบินพันธมิตรและผู้สนับสนุนหลักของมุมไบ อินเดียนส์ (Mumbai Indians) ทีมคริกเก็ตที่ชนะเลิศรายการเป็ปซี อินเดียน พรีเมียร์ ลีก (Pepsi Indian Premier League: IPL) ในปีที่แล้ว โดยสายการบินทั้งสองได้ร่วมกันสนับสนุนรายการกีฬาและกิจกรรมอื่น ๆ อีกทั้งยังได้นำการฝึกสอนชั้นเลิศของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีมาสู่อินเดียให้กับเยาวชนมาแล้วถึงสองครั้ง

ในเดือนหน้าสายการบินเอทิฮัด จะเข้าร่วมงานอินเดีย เอวิเอชั่น 2016 (India Aviation 2016) ที่ไฮเดอราบัด การประชุมและนิทรรศการที่จัดขึ้นทุก ๆ สองปีเพื่อนำเสนออุตสาหกรรมการบินของอินเดียซึ่งจัดโดยกระทรวงการบินพลเรือน (Ministry of Civil Aviation) และหอการค้าและอุตสาหกรรมของอินเดีย (Federation of Indian Chambers of Commerce and Industry) งานนี้จะทำให้สายการบินได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน และผู้มีส่วนสำคัญอื่น ๆ ทั่วทั้งภาคอุตสหกรรมการบินของอินเดีย

ภายในปี พ.ศ. 2563 ปริมาณผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่ใช้บริการท่าอากาศยานต่าง ๆ ทั่วอินเดียจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็นจำนวนกว่า 450 ล้านคน และองค์กรการท่องเที่ยวโลกของสหประชาชาติ (UN World Tourism Organisation) ได้คาดการณ์ว่าจะมีชาวอินเดียเดินทางไปต่างประเทศมากกว่า 50 ล้านคนต่อปีภายในปี พ.ศ. 2563 สายการบินเอทิฮัดมุ่งมั่นในการเป็นช่องทางให้กับตลาดการเดินทางออกนอกประเทศขนาดใหญ่นี้ รวมถึงนักเดินทางเข้าสู่อินเดียซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของกลยุทธ์ในการเติบโต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version