กรมควบคุมโรค และภาคีเครือข่าย สานพลังยุติการเลือกปฏิบัติผู้ติดเชื้อเอชไอวี เน้นเอดส์ไม่ติดง่าย...เราอยู่ร่วมกันได้เป็นเพื่อนกันได้

พฤหัส ๐๓ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๑:๓๕
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายแพทย์สมบัติ แทนประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายจอน อึ้งภากรณ์ ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์, Dr.Tatiana Shoumilina UNAIDS, นายวชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์(ออกัส) ดารา/นักแสดง และนายอนันต์ เมืองมูลไชย ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี ร่วมแถลงข่าววันยุติการเลือกปฏิบัติ "เปิดใจ เข้าใจเอชไอวี...เราเป็นเพื่อนกันได้" โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่ประเทศไทยร่วมรณรงค์การยุติการเลือกปฏิบัติ หลังจากที่โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ เริ่มเชิญชวนประเทศต่างๆ เมื่อปี 2557 และได้กำหนดให้เป็นวันรณรงค์สากลเพื่อยุติการเลือกปฏิบัติ ตั้งแต่ปี 2557 โดย "ผีเสื้อ" ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเชิญชวนให้ทุกคนเปิดใจ ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกที่ปราศจากการเลือกปฏิบัติ ให้สังคมตระหนักและช่วยกันยุติการเลือกปฏิบัติ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573

นายแพทย์สมบัติ แทนประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากผลการสำรวจการตีตราและเลือกปฏิบัติในสถานบริการสุขภาพ 2 จังหวัด ในปี 2557 โดยภาพรวมพบว่ามากกว่าร้อยละ 60 มีความกังวลว่าจะติดเชื้อเอชไอวีจากการให้บริการผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์, มากกว่าครึ่งของผู้ปฏิบัติงานในสถานบริการสุขภาพ ใช้วิธีการป้องกันตัวเองมากกว่าปกติระหว่างการให้บริการผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ และ 1 ใน 5 (ร้อยละ 23) เคยสังเกตเห็นการเลือกปฏิบัติระหว่างการให้บริการผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ซึ่งข้อมูลสถานการณ์การตีตราและการเลือกปฏิบัติ ชี้ให้เห็นว่าการตีตราและการเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเอดส์ยังคงมีปรากฏในสังคม และเป็นอุปสรรคที่ทำให้คนไม่เข้าสู่ระบบบริการดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น เพื่อยุติปัญหาเอดส์ให้ได้ ภายในปี 2573 จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลด "การตีตราและการเลือกปฏิบัติ" โดยมาตรการตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ.2557-2559 ประกอบด้วย 2 มาตรการสำคัญ คือ 1. มาตรการในเชิงการป้องกันการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ คือการสร้างความเข้าใจเรื่องการตีตราและการเลือกปฏิบัติในทุกระดับ ได้แก่ การรณรงค์สาธารณะ "เอดส์เป็นเรื่องธรรมดา" การสร้างความเข้าใจเรื่องการตีตราและเลือกปฏิบัติในสถานบริการสุขภาพ และเสริมศักยภาพผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี และ 2. มาตรการในเชิงการปกป้องคุ้มครองสิทธิ เพื่อแก้ไขการละเมิดสิทธิ ได้แก่ การพัฒนากลไก/คณะทำงานส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิระดับจังหวัด

นายแพทย์สมบัติ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการร่วมกับคณะอนุกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ และเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์แห่งประเทศไทย โดยในส่วนของกรมควบคุมโรค ได้เริ่มดำเนินการพัฒนารูปแบบการสร้างความเข้าใจและลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติในสถานบริการสุขภาพ โดยในปีแรกนี้ จะเริ่มดำเนินการในสถานบริการสุขภาพ เพราะเป็นหน่วยงานที่ให้บริการใกล้ชิดผู้อยู่ร่วมกับเอชไอวี เพื่อจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการให้บริการที่ปราศจากการตีตราและเลือกปฏิบัติ ซึ่งการลดการตีตราและเลือกปฏิบัติฯ ไม่ได้เกิดผลดีต่อผู้รับบริการอย่างเดียว แต่ยังเกิดผลดีต่อคนทำงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสุขใจ ไม่มีข้อกังวลการร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิของผู้รับบริการ อย่างไรก็ดี มาตรการสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การสร้างสภาวะแวดล้อมมีความสำคัญ และโดยลำพังเพียงหน่วยงานภาครัฐที่จะรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์อย่างเดียว คงไม่พอ ดังนั้น อยากขอให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะสื่อมวลชนร่วมกันให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสังคมว่า ขณะนี้ เอดส์ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่ติดต่อกันได้ง่าย แต่ "เอดส์ รักษาได้" โรคเอดส์เป็นโรคธรรมดาเหมือนกับโรคเรื้อรังชนิดอื่นๆ และไม่ว่าจะมีเอชไอวีหรือไม่มี ทุกคนยังคงเป็นเพื่อนกันได้ อยู่ร่วมกัน ทำงานด้วยกันได้

นายจอน อึ้งภากรณ์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ กล่าวว่า จากการร้องเรียนเรื่องการเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ที่ได้รับเป็นจำนวนมาก คณะอนุกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์พบว่าในปัจจุบันแม้ผู้มีเชื้อเอชไอวีจะมีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาว เนื่องจากการไดรับสูตรยาสมัยใหม่ และไม่ได้มีโอกาสแพร่เชื้อต่อผู้อื่นในชีวิตประจำวัน แต่การไม่เข้าใจของสังคมและการเลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อที่ไร้เหตุผลยังมีอยู่กว้างขวาง โดยเฉพาะยังมีนายจ้างเอกชนหลายรายยังบังคับผู้สมัครงานตรวจเลือดเอชไอวีและในกรณีที่พบว่ามีเชื้อก็ไม่รับเข้าทำงาน คณะอนุกรรมการฯได้ไปเจรจากับนายจ้างรายใหญ่ที่เป็นห้างที่มีสาขาทั่วประเทศ ประสบความสำเร็จ โดยนายจ้างตกลงยกเลิกการตรวจเอชไอวีในการตรวจสุขภาพผู้สมัครงาน แต่ยังมีนายจ้างอีกบางส่วนไม่ยอมเปลี่ยนนโยบายและยังละเมิดสิทธิโดยไม่รับผู้มีเชื้อเอชไอวีเข้าทำงาน

นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการยังพบว่ามีมหาวิทยาลัยเอกชนบังคับนักศึกษาตรวจเชื้อเอชไอวี ทั้งๆที่ขัดต่อแนวปฏิบัติของมหาวิทยาลัยทั่วโลกและมหาวิทยาลัยอื่นในประเทศไทย เมื่อไปพูดคุยปรึกษาหารือทางมหาวิทยาลัยไม่ยอมเปลี่ยนแนวปฏิบัติ ซึ่งเรื่องนี้ได้นำไปสู่คดีฟ้องร้องในศาลปกครอง นอกจากนี้ยังมีกรณีของโรงเรียนบางแห่งที่เลือกปฏิบัติต่อนักเรียนที่มีเชื้อเอชไอวี ซึ่งต้องอาศัยการทำความเข้าใจกับครูและผู้ปกครองจึงแก้ปัญหาได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันคณะอนุกรรมการฯกำลังศึกษาหามาตรการทางกฏหมายที่จะช่วยคุ้มครองสิทธิของผู้มีเชื้อเอชไอวีให้สามารถเข้าถึงการศึกษาและการจ้างงานเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป

ด้านนายวชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ หรือ "ออกัส" นักแสดงวัยรุ่น เล่าถึงประสบการณ์และความรู้สึกในฐานะประชาชนทั่วไป ซึ่งได้เปลี่ยนความคิดความเชื่อเดิมที่เคยเห็นเคยได้ยิน ทำให้รู้สึกกลัว แต่เมื่อมีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ก็ช่วยให้เข้าใจเอชไอวีได้ว่า จริงๆ ไม่ได้น่ากลัวหรือน่ารังเกียจ ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกัน เป็นเพื่อนกันได้ ไม่ว่าจะมีเชื้อเอชไอวีหรือไม่มีเชื้อเอชไอวีก็ตาม และสุดท้าย "ออกัส" ได้กล่าวเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันยุติการเลือกปฏิบัติ โดยเริ่มที่ตัวเราก่อน

ส่วนนายอนันต์ เมืองมูลไชย ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่คนในสังคมรู้และเข้าใจ ไม่รังเกียจ กีดกันและเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี ย่อมเปิดโอกาสให้คนที่ประเมินความเสี่ยง ได้เข้าสู่กระบวนการคัดกรองหาการติดเชื้อและเข้าสู่กระบวนการการรักษาได้ทันท่วงทีที่รู้ว่าติดเชื้อ นั่นเท่ากับเป็นการรักษาทรัพยากรบุคคลที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยามที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและขาดแคลนบุคคลากรวัยแรงงาน วันนี้เรารู้ดีว่าสถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่พุ่งไปที่เยาวชนและวัยเริ่มทำงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศในอนาคต ดังนั้น ถ้าพวกเราเชื่อใน "ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน"และ"การมีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ" ถ้าพวกเราเชื่อว่า"ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ" เราต้องเชื่อว่า เด็ก เยาวชน คนที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีช่วยพัฒนาประเทศได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO