นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล กรรมการผู้จัดการ บมจ.พัฒน์กล กล่าวว่า "พัฒน์กลมุ่งพัฒนา 4 ธุรกิจหลักรองรับอุตสาหกรรมอาหารและส่งออกอาหารที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเครื่องทำความเย็น บริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการไทยรายใหญ่ที่สุดในแถบภูมิภาคอาเซียน ที่ทำงานด้านวิศวกรรม ทั้งในด้านการผลิต ออกแบบ ติดตั้ง และขายอะไหล่ อุปกรณ์ ระบบแช่อาหาร ห้องเย็นอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ ตู้แช่ผลิตภัณฑ์และห้องเย็นสาหรับซุปเปอร์มาร์เก็ต ระบบทำความเย็นเพื่อใช้ในโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา กุ้ง ผักและผลไม้ โดยมีระบบทำน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิ และระบบลมเย็นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สดเสมอระหว่างการแปรรูปและตัดแต่ง เริ่มตั้งแต่แช่แข็งและเก็บ เพื่อรอการส่งออกและจำหน่ายต่อไป เป็นต้น เนื่องจากบริษัทฯ มีเทคโนโลยีที่ดีเทียบเท่าบริษัทต่างชาติและยังมุ่งเน้นในเรื่องการประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยสัดส่วนการผลิตปัจจุบันตลาดในประเทศเฉลี่ย 74 เปอร์เซ็นต์ และตลาดต่างประเทศอีก 26 เปอร์เซ็นต์ และตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50:50 ใน 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจวิศวะกรรมแปรรูปอาหารเหลว เป็นเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตนม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เบียร์ และยังรวมถึงอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหาร ได้แก่ แชมพู ครีมนวดผม สบู่เหลว ยา เคมีภัณฑ์บางชนิด เช่นสี เป็นต้น ธุรกิจวิศวกรรมแปรรูปอาหารแข็ง พัฒน์กล เป็นบริษัทไทยแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถออกแบบและสร้างโรงงานแปรรูปปลาทูน่ากระป๋อง และโรงงานกุ้งครบวงจร และสร้างเครื่องจักรแช่แข็งแบบต่อเนื่อง เครื่องคัดขนาดปลา กุ้ง ผลไม้ สร้างเครื่องล้างถาดสำหรับโรงงานผลิตอาหารและซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อช่วยลดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงาน และสามารถสร้างโรงงานแปรรูปอาหารที่บริษัทต่างชาติยอมรับเพียงรายเดียวในประเทศไทย และสุดท้ายคือ กลุ่มธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็ง ด้วยความที่พัฒน์กลคือผู้ที่บุกเบิกให้มีน้ำแข็งหลอดขึ้นในประเทศไทย และเป็นผู้ผลิตเครื่องทำน้ำแข็งหลอดรายแรกที่ทำให้คนไทยมีน้ำแข็งที่สะอาด ถูกสุขอนามัยไว้บริโภคด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเป็นอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิต ออกแบบ ติดตั้งและขายอะไหล่ อุปกรณ์สำหรับเครื่องทำน้ำแข็งหลอด น้ำแข็งเกล็ด และน้ำแข็งซองมายาวนานเกือบ 50 ปี และยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปแล้ว 5 ทวีป กว่า 50 ประเทศ
ด้านผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,550 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 528 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 4,079 ล้านบาท และเป็นกำไรสุทธิที่ 109 ล้านบาทลดลง 52% โดยในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 230 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงสามารถทำกำไรได้แม้จะประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจในประเทศชลอตัว จากการดำเนินตามกลยุทธ์ และเป้าหมายที่บริษัทฯ ได้วางไว้ ได้แก่ การเร่งรุกตลาด AEC ทดแทนในส่วนที่ลดลงภายในประเทศ
นายแสงชัย กล่าวเสริมว่า "พัฒน์กลได้มีการขยายตลาดและการลงทุนเพื่อการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีการลงทุนทั้งในด้านเครื่องจักรและบุคลากรเป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมความพร้อมและรองรับการขยายไปสู่สมาคมเศรษฐกิจอาเซียน และยุโรป โดยภาพรวมธุรกิจในปีนี้มีแนวโน้มสดใส โดยได้มีการแต่งตั้งตัวแทนภาคพื้นยุโรปและมีสัญญาการค้าและเทคโนโลยีร่วมกัน รวมถึงการตั้งจัดตั้งบริษัทในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้บริษัทย่อย
PT INDONESIA PATKOL SERVICE เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการ Preventive Maintenance (PM) สำหรับกลุ่ม "เครื่องทำน้ำแข็ง" ล่าสุดได้ยื่นเรื่องขอใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) เพื่อดำเนินธุรกิจและจัดตั้งโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3-4/2559 โดยในปัจจุบันใช้สถานที่ลูกค้าประกอบสินค้าในประเทศอินโดนีเซียเพื่อผลิตตามคำสั่งซื้ออยู่แล้ว คาดว่าหากโรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและต้นทุนลดลง มั่นใจปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน