นางรัตนา กิจวรรณ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้พบว่า ในหลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาปริมาณน้ำดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีกปภ.สาขาที่มีความเสี่ยงประสบภัยแล้ง 12 สาขา ใน 9 จังหวัด ได้แก่ กปภ.สาขาฉะเชิงเทรา สาขาบางคล้า และสาขาบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กปภ.สาขาพนัสนิคม จ.ชลบุรี กปภ.สาขาศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี กปภ.สาขาสวนผึ้ง จ.ราชบุรี กปภ.สาขาพิมาย และสาขาปักธงชัย จ.นครราชสีมา กปภ.สาขาหนองเรือ จ.ขอนแก่น กปภ.สาขาแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ กปภ.สาขากันตัง จ.ตรัง และกปภ.สาขาท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และมี กปภ.สาขา ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 49 สาขา รวม 30 จังหวัด
ดังนั้น เพื่อให้สามารถก้าวผ่านภัยแล้งในปีนี้ไปได้ กปภ. ต้องขอความร่วมมือประชาชนในทุกพื้นที่รวมพลังใช้น้ำประปาในชีวิตประจำวันอย่างประหยัดและรู้คุณค่าด้วยวิธีการง่าย ๆ เช่น เมื่อแปรงฟันให้ใช้แก้วรองน้ำบ้วนปากและแปรงฟัน ซึ่งจะใช้น้ำประปาเฉลี่ยเพียง 1 ลิตร แต่หากปล่อยให้น้ำไหลในขณะแปรงฟันด้วย จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำประปาถึง 9 ลิตร ต่อ 1 นาที หรือเมื่อล้างหน้า ให้ใช้ภาชนะรองน้ำ จะใช้น้ำประปาเพียง 9 ลิตร แต่ถ้าเปิดน้ำทิ้งไว้ต่อเนื่องจะสิ้นเปลืองน้ำประปาถึง 18 ลิตร รวมถึงควรหมั่นสำรวจระบบประปาภายในบ้านอยู่เสมอด้วยการตรวจสอบก๊อกน้ำ เส้นท่อ และสุขภัณฑ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีไม่ให้มีการรั่วไหล โดยหากตรวจสอบพบท่อประปาแตกรั่วสามารถแจ้งได้ที่ กปภ.สาขาใกล้บ้าน หรือ PWA Call Canter 1662 เพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นพฤติกรรมการประหยัดน้ำให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ตลอดจนตระหนักถึงคุณค่าและเข้าใจถึงความสำคัญของแหล่งน้ำดิบที่ในช่วงฤดูแล้งจะมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง กปภ. จึงได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์แนวทางการประหยัดน้ำ ภายใต้แนวคิด "น้ำดิบมีเหลือน้อย ใช้สอยต้องประหยัด" ในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มกิจกรรมดังกล่าวแล้วในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ด้วยการเดินรณรงค์แจกแผ่นพับแนะนำการใช้น้ำประปาอย่างประหยัด ตลอดจนแนะนำการตรวจสอบระบบประปาภายในบ้าน