บลจ. กสิกรไทย ส่งกองทุนบอนด์ใหม่ เสนอขาย 8-14 มี.ค.นี้ ชูกองทุนไฮยิลด์บอนด์อายุ 6 เดือน ขยับผลตอบแทนแตะ 2.10% ชวนลูกค้าพักเงินรอจังหวะลงทุน

อังคาร ๐๘ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๔๑
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 8-14 มีนาคม 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีโอ (KEFF6MCO) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.10% ต่อปี ซึ่งสูงขึ้นกว่าผลตอบแทนจากกองทุนประเภทเดียวกันที่เสนอขายในครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกันยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอส (KFF3MS) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 1.60% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย นายนาวินกล่าวต่อไปว่า "ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงในเกือบทุกช่วงอายุตราสาร เนื่องจากมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเป็นการเข้าซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้คาดว่าตลาดได้รับผลกระทบหลักจากปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ การที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% โดยนโยบายดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงการที่ตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทั้งอาจมีการส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป นอกจากนี้ความผันผวนที่เกิดขึ้นในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทำให้นักลงทุนหันกลับเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเป็นการพักเงินและรอดูความชัดเจนด้านทิศทางเศรษฐกิจ และเพื่อจับจังหวะเข้าลงทุนต่อไป"

บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย

นายนาวินกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอส (KFF3MS) เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์ และเงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในพันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

นอกจากนี้บลจ.กสิกรไทย ยังขอแนะนำกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีโอ (KEFF6MCO) เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตราสารหนี้ VakifBank, ประเทศตุรกี นอกจากนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในพันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MCO และกองทุน KFF3MS สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ